@article{ลิ้มเจริญ_2011, title={ผลของการใช้น้ำสกัดจากเปลือกสะเดาในการกำจัดพยาธิตัวกลมในระบบทางเดินอาหารของแพะ}, volume={2}, url={https://li01.tci-thaijo.org/index.php/pnujr/article/view/53680}, abstractNote={ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลการใช้น้ำสกัดจากเปลือกสะเดาในการกำจัดพยาธิตัวกลมในระบบทางเดินอาหารของแพะ กลุ่มตัวอย่างเป็นแพะลูกผสมพื้นเมืองไทย x แองโกลนูเบียน 50 เปอร์เซ็นต์ เพศเมีย อายุระหว่าง 6 - 8 เดือน น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ย 14.55 +0.83 กิโลกรัม จำนวน 32 ตัว ใช้แผนการทดลองแบบสุ่มตลอด( Completely Randomized Design: CRD )  แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ตัว โดยวิธีการดังนี้ 1) ยาเลวามิโซลปริมาณ 5 มิลลิกรัม./น้ำหนักแพะ 1 กิโลกรัม.  2) น้ำสกัดจากเปลือกสะเดาปริมาณ 2 มิลลิลิตร /น้ำหนักแพะ 1 กิโลกรัม. 3) น้ำสกัดจากเปลือกสะเดาปริมาณ 3 มิลลิลิตร/น้ำหนักแพะ 1 กิโลกรัม.  4) น้ำสกัดจากเปลือกสะเดาปริมาณ 4 มิลลิลิตร/น้ำหนักแพะ 1 กิโลกรัม  แพะได้รับน้ำสกัดจากเปลือกสะเดาโดยวิธีการกรอกปาก ส่วนยาถ่ายพยาธิเลวามิโซลใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อและนับไข่พยาธิจากมูลแพะ หลังจากให้ยาหรือน้ำสกัดจากเปลือกสะเดาในวันที่ 3, 7, 14, 21, 28 และ 35 วัน พบว่าหลังจากแพะได้รับยาหรือน้ำสกัดจากเปลือกสะเดาไปแล้ว 3, 7, 14, 21, 28 และ 35 วัน จำนวนไข่พยาธิในมูลลดน้อยลง โดยแพะที่ได้รับยาลาวามิโซลมีจำนวนไข่พยาธิลดน้อยลงกว่าแพะที่ได้รับน้ำสกัดจากเปลือกสะเดา ทั้ง 3 กลุ่ม ( p<0.05 ) แต่แพะที่ได้รับน้ำสกัดจากเปลือกสะเดาทั้ง 3 กลุ่ม มีจำนวนไข่พยาธิไม่แตกต่างกันทางสถิติ( p>0.05 ) อย่างไรก็ตามแพะที่ได้รับน้ำสกัดจากเปลือกสะเดาในปริมาณ  3 มิลลิลิตร. เป็นเวลา 21 วัน มีจำนวนไข่พยาธิน้อยที่สุด แต่เมื่อให้แพะได้รับยาเลวามิโซลหรือน้ำสกัดจากเปลือกสะดาทั้ง 3 กลุ่มเป็นเวลา 28 และ 35 วัน ทำให้จำนวนไข่พยาธิเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการใช้น้ำสกัดจากเปลือกสะเดาในการกำจัดพยาธิในระบบทางเดินอาหารของแพะ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร<br /><strong>คำสำคัญ : </strong>แพะลูกผสม พยาธิตัวกลม น้ำสกัดสมุนไพรเปลือกสะเดา}, number={3}, journal={Princess of Naradhiwas University Journal}, author={ลิ้มเจริญ สมนึก}, year={2011}, month={Sep.} }