Mammogram and Ultrasonographic Examination of Male Breast Disease
Abstract
บทคัดย่อ
โรคของเต้านมในเพศชายพบได้น้อย แต่เต้านมที่โตขึ้นเนื่องจากโรคส่งผลต่อสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ของผู้ป่วยได้มาก ภาวะที่พบบ่อยที่สุดคือ gynecomastia โดยมะเร็งเต้านมพบเป็นอันดับรองลงมา ความผิดปกติของ testosterone ไม่ว่าจะเป็นการผลิตที่ลดลงหรือถูกต้านฤทธิ์ด้วยยาและสารบางชนิด ตลอดจนการที่ระดับ estrogen เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิด gynecomastia ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านมคือประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมในครอบครัวโดยเฉพาะในญาติเพศชายสายตรงของผู้ป่วยและความผิดปกติของ gene ในตัวผู้ป่วยเอง จากการศึกษาพบว่าอุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมในเพศชายพบเพิ่มมากขึ้นและการใช้สเตอรอยด์เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อในนักกีฬาและนักเพาะกายก็ทำให้พบภาวะgynecomastia เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการวางแผนการรักษาของทั้ง 2 ภาวะนี้มีความแตกต่างกัน การวินิจฉัยแยกโรคอย่างถูกต้องและแม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ดีการตรวจร่างกายแต่เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถแยก 2 ภาวะนี้ออกจากกันได้ การตรวจเอกซเรย์เต้านมร่วมกับการตรวจอัลตราซาวด์จึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยวินิจฉัยแยกภาวะดังกล่าวออกจากกันโดยอาศัยสิ่งตรวจพบที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน โดยที่gynecomastia มักพบรอยโรคเกิดอยู่ตรงกลางใต้ต่อหัวนมในขณะที่มะเร็งมักพบเกิดอยู่ด้านข้างต่อหัวนม นอกจากนั้น เอกซเรย์เต้านมร่วมกับอัลตราซาวด์ยังสามารถใช้ตรวจภาวะที่ไม่ใช่มะเร็งอื่นๆที่อาจพบเกิดขึ้นในเต้านมได้ ทำให้สามารถวางแผนการรักษาผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพและได้ผลดีที่สุด
Abstract
Male breast disease is uncommon but influence largely on psychosocial condition and well-being of patient. Most common condition of male breast disease is gynecomastia while breast carcinoma is the second most common disease. Conditions or diseases influence testosterone synthesis or antagonist effect from certain drugs or substances cause gynecomastia and factors influencing breast carcinoma are familial history of male breast cancer and individual gene mutation. Increasing incidence of male breast carcinoma found in some studies as well as increase number of gynecomastia patients among athletes and body builders due to anabolic steroid utilization. Treatment planning for two entities are difference and needs accurate diagnosis. While physical examination alone may not sufficient enough, mammogram combined with ultrasound play important role in diagnosis. Difference in location of lesion found in mammogram and ultrasound may be a clue for differentiation of these two conditions, inferior and central lesion location to nipple found in gynecomastia while eccentric lesion location to nipple suggested carcinoma. Mammogram and ultrasound also helpful in diagnosis of other benign male breast conditions. With good informations from these modalities, effectiveness and best result of treatment could be achieved.