การพัฒนาตัวชี้วัดคุณภาพการพยาบาลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ในห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศรีนครินทร์
คำสำคัญ:
ตัวชี้วัดคุณภาพบทคัดย่อ
หลักการและวัตถุประสงค์ : การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดปากแหว่งเพดานโหว่ให้ได้รับความปลอดภัยและ พึงพอใจเป็นเป้าหมายสำคัญของการให้การพยาบาล เพื่อให้การพยาบาลผู้ป่วยบรรลุเป้าหมายจึงจำเป็นต้องกำหนดตัวชี้วัดเพื่อใช้ประเมินคุณภาพของการพยาบาล การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและติดตามตัวชี้วัดคุณภาพการพยาบาลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ที่เข้ารับการผ่าตัด และสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลศรีนครินทร์
วิธีการศึกษา : การศึกษาแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาตัวชี้วัดคุณภาพการพยาบาลผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่ห้องผ่าตัดครั้งนี้ ได้ประชุมพยาบาล 4 ครั้ง ระยะที่ 1กำหนดตัวชี้วัด 3 ข้อ เก็บข้อมูลจากผู้ป่วย 65 ราย ระยะที่ 2 กำหนดเพิ่ม 13 ข้อ รวมเป็น 16 ข้อ เก็บข้อมูลจากผู้ป่วย 102 ราย พร้อมทั้งพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อลงข้อมูลอย่างเป็นปัจจุบัน และประเมินความคิดเห็นผู้ใช้บริการ จำนวน 15 ข้อ จากผู้ดูแล 50 ราย รวบรวมข้อมูล 12 เดือน
ผลการศึกษา : มีการประชุม 4 ครั้ง ได้ตัวชี้วัดคุณภาพการพยาบาล16ข้อ ผลการประเมินพบว่าปฏิบัติได้ตามค่าเป้าหมาย 15 ข้อ ความคิดเห็นผู้ใช้บริการต่อคุณภาพบริการผ่าตัด 15 ข้อ ปฏิบัติได้ตามค่าเป้าหมาย 9 ข้อ การพัฒนาระบบสารสนเทศสามารถประมวลผลได้อย่างอัตโนมัติ
สรุป : ตัวชี้วัดคุณภาพการพยาบาล ปฏิบัติตามค่าเป้าหมายได้ 15 ข้อ ส่วนความคิดเห็นผู้ใช้บริการต่อคุณภาพบริการผ่าตัด เป็นไปตามค่าเป้าหมายเป็นส่วนมาก และสามารถประมวลผลในระบบสารสนเทศอย่างอัตโนมัติ ผลของการศึกษาจะนำไปพัฒนาคุณภาพการพยาบาลต่อไป
เอกสารอ้างอิง
2. บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น. การดูแลแบบสหวิทยาการของผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และความพิการแต่กำเนิดของใบหน้า และกะโหลกศีรษะ. ขอนแก่น : ศิริภัณฑ์ ออฟเซ็ท; 2547.
3. สุธีรา ประดับวงษ์. การดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ตามช่วงอายุแบบสหวิทยาการ. ศรีนครินทร์เวชสาร 2550; 22 : 291-6.
4. Pradubwong S, Pongpagatip S, Chowchuen B. Treatment of 4-5 Years-Old Patients with Cleft Lip and Cleft Palate in Tawanchai Center. J Med Assoc Thai 2012 ; 95 (Suppl. 11) : S 135 – 40.
5. สถาบันรับรองคุณภาพโรงพยาบาล องค์กรมหาชน.มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60ปี. นนทบุรี : มาตรฐาน; 2551.
6. สุชาติ ประสิทธิ์รัฐพันธุ์. ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2546.
7. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์, พิมพิมล วงศ์ไชยา. การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม : ลักษณะสำคัญและการประยุกต์ใช้ในชุมชน.วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2560 ; 36 : 192-202
8. อรทัย เล็กบุญญาสิน, สุธีรา ประดับวงษ์, วาสนา จันทะชุม, สุพิชฌาย์ อุดมธนะทรัพย์, บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น. การศึกษาสถิติของผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ปี พ.ศ. 2527-2550. ศรีนครินทร์เวชสาร 2552 ; 24 : 240-6.
9. ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ. THIP ร้อยอดีตสู่ปัจจุบันร่วมสร้างสรรค์อนาคต. สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน ) [อินเทอร์เน็ต]. [อ้างถึง 20 สิงหาคม 2558] Available from : https://med.mahidol.ac.th/cqs/th/km/quality/01202016-0844-th
10. นงราม เศรษฐพานิช. ใน การสัมมนาการปฏิรูประบบราชการ สกศ. ครั้งที่ 4 (สายวิชาการ) การพัฒนาตัวชี้วัดและทบทวนกระบวนการทำงาน ณ โรงแรมดุสิตรีสอร์ท แอนด์ โปโลคลับ จ.เพชรบุรี. วันที่ 12-14 มีนาคม 2540.
11. Fixler T, Wright JG. Identification and use of operating room efficiency indicators: the problem of definition. Can J Surg Augus 2013; 56: 224–6.
12. Pradubwong S, Pongpagatip S, Kanittha v, Chowchuen B. The Development of the Nursing Care System for Patients with Cleft Lip-Palate and Craniofacial Deformities at Tawanchai Cleft Center, Srinagarind Hospital, Khon Kaen Thailand. J Med Assoc Thai 2012; 95: 55-61.
13. ภรณ์วรัญธ์ จุนทการบัณฑิต. การพัฒนาตัวชี้วัดคุณภาพบริการผู้ป่วยในโรงพยาบาลชุมชน. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ 2554; 5: 80-91.
14. วีณา จีรแพทย์. สารสนเทศทางการพยาบาลและสุขภาพ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544.
