วิถีชีวิตและปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผู้แต่ง

  • ณัฐพงษ์ อัญชลี นักศึกษาหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • เบญจา มุกตพันธุ์ กลุ่มวิจัยการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น

คำสำคัญ:

วิถีชีวิต; ภาวะโภชนาการเกิน; บุคลากรสายสนับสนุน

บทคัดย่อ

หลักการและวัตถุประสงค์: ภาวะโภชนาการเกินเป็นปัญหาที่มีความชุกเพิ่มมากขึ้นในประชาชนไทย การศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตด้านต่างๆและปัจจัยส่วนบุคคลกับภาวะโภชนาการเกินของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วิธีการศึกษา:กลุ่มตัวอย่างจำนวน 387 ราย ได้รับการประเมินภาวะโภชนาการเกินโดยใช้ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่มีค่า ≥ 23 กก./ม2 เก็บข้อมูลลักษณะส่วนบุคคล ระยะเวลาการทำกิจกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary lifestyle) และการบริโภคอาหาร ด้วยแบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง ประเมินกิจกรรมทางกายโดยใช้แบบสอบถามกิจกรรมทางกายระดับโลก (GPAQ)  วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตด้านต่างๆกับภาวะโภชนาการเกินด้วยสถิติถดถอยพหุโลจิสติกส์

ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิงร้อยละ 77.8 อายุเฉลี่ย 42 ปี กลุ่มตัวอย่างมีภาวะโภชนาการเกิน ร้อยละ 55 มีกิจกรรมทางกายระดับหนัก ปานกลาง เบา ร้อยละ  40.0, 23.8 และ 36.2 ตามลำดับ เวลาที่ใช้ในกิจกรรมเนือยนิ่งเฉลี่ย 11.7 ชม./วัน  กลุ่มตัวอย่างมีการบริโภคอาหารที่มีความเสี่ยงต่อน้ำหนักเกิน ระดับเสี่ยงมากและปานกลางร้อยละ 19.7 และ 73.1 ตามลำดับ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ได้แก่ เพศชาย (adjusted OR =2.5, 95% CI: 1.39-4.35) อายุ 41-60 ปี (adjusted OR = 3.36, 95% CI: 2.08-5.44) การศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี (adjusted OR =3.18, 95% CI : 1.41-7.15) การมีญาติสายตรงอ้วน (adjusted OR =2.45, 95% CI: 1.54-3.88 ) และการรับประทานอาหารมื้อดึก (adjusted OR =1.87, 95% CI: 1.01-3.45)

สรุป: บุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยขอนแก่น มากกว่าครึ่งหนึ่งมีภาวะโภชนาการเกิน ดังนั้นควรจัดกิจกรรมควบคุมน้ำหนักในบุคลากรกลุ่มนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพศชายอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรีและมีญาติที่อ้วน และควรแนะนำให้งด/ลดการรับประทานอาหารมื้อดึก

เอกสารอ้างอิง

1. World Obesity Federation. Obesity and overweight. [Internet] 2018 [cited February 16, 2019]; Available from: http://www.who.int/en/news-room/fact-sheets/detail/obesity-and-overweight.
2. Ritchie H, Roser M. Obesity. [Internet] 2018 [cited February 9, 2019]; Available from: https://ourworldindata.org/obesity.
3. วิชัย เอกพลากร,บรรณาธิการ. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2557.
4. ฐิติกร โตโพธิ์ไทย,นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์,ชมพูนุท โตโพธิ์ไทย,วิชชุกร สุริยะวงศ์ไพศาล,สุพล ลิมวัฒนานนท์,จุฬาภรณ์ ลิมวัฒนานนท์ และคณะ. คนไทยใช้พลังงานในกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งเท่าไร: ข้อมูลจากการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. 2558. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข 2560. 11: 356-65.
5. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. สุขภาพคนไทย 2557 : "ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง" สู่การปฏิรูปประเทศจากฐานราก นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล, 2557.
6. วิวิชัย เอกพลากร,บรรณาธิการ. การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 4 พ.ศ.2551-2552. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2553.
7. Hsieh FY,Bloch DA, and Larsen MD. A simple method of sample size calculation for linear and logistic regression. Stat Med 1998; 17: 1623-34.
8. Bloom BS,Madaus GF, and Hastings TJ. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw-Hill; 1971.
9. Burton WN, Chen CY, Schultz AB, Edington DW. The prevalence of metabolic syndrome in an employed population and the impact on health and productivity. J Occup Environ Med 2008; 50: 1139-48.
10. Darebo T,Mesfin A, Gebremedhin S. Prevalence and factors associated with overweight and obesity among adults in Hawassa city, southern Ethiopia: a community based cross-sectional study. BMC Obesity 2019; 6: 8-9.
11. Hajian K , Heydari B. Prevalence of obesity and its associated factors in population aged 20 to 70 years in urban areas of Mazandaran. J Mazandaran Univ Med Sci 2006; 16: 107-17.
12. Jafar TH,Chaturvedi N, Pappas G. Prevalence of overweight and obesity and their association with hypertension and diabetes mellitus in an Indo-Asian population. Can Med Assoc J 2006; 175: 1071-77.
13. Villareal DT, et al. Obesity in older adults: technical review and position statement of the American Society for Nutrition and NAASO, The Obesity Society. Am J Clin Nutr 2005; 82: 923-34.
14. ภิษฐ์จีรัชญ์ พัชรกุลธนา, กมลทิพย์ ขลังธรรมเนียม, วนิดา ดุรงค์ฤทธิชัย. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคอ้วนในกลุ่มวัยผู้ใหญ่เขตเทศบาลตำบลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารพยาบาลทหารบก 2558; 10: 133-9.
15. Cutler DM, Lleras-Muney A. Education and health: evaluating theories and evidence. NBER Working Papers 12352, National Bureau of Economic Research, Inc,2006.
16. Christakis NA, Fowler JH. The spread of obesity in a large social network over 32 years. N Engl J Med 2007; 357: 370-9.
17. รัชฎา สุธาดารัตน์, สุญาณี พงษ์ธนานิกร, กุลวรา เมฆสวรรค์. ความสัมพันธ์ระหว่างแบบแผนการบริโภคอาหาร และกลุ่มอาการเมแทบอลิกของประชากรวัยทำงาน ในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสาธารณสุขศาสตร์ 2553; 40: 17-28.
18. ถาวร มาต้น. โรคอ้วน: ภัยคุกคามสุขภาพคนไทย. วารสารสาธารณสุขศาสตร์ 2553; 40: 356-65.
19. สุพิณญา คงเจริญ. โรคอ้วน: ภัยเงียบในยุคดิจิทัล. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2560; 11: 23-9.
20. World Health Organization. Global Strategy on Diet, Physical Activity and Health. [Internet] 2018 [Cited April 13,2018]; Available from: http://www.who.int/dietphysicalactivity/pa/en/.
21. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. สุขภาพคนไทย 2559 : ตายดี วิถีที่เลือกได้ กรุงเทพมหานคร: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), 2559.
22. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2561. [อินเตอร์เน็ต] 2561 [เข้าถึงเมื่อ25 กรกฎาคม 2561]; เข้าถึงได้จาก: https://www.etda.or.th/app/webroot/content_files/13/files/Thailand_Internet_User_Profile_2018_Slides%281%29.pdf.
23. Kerr J,Anderson C, Lippman SM. Physical activity, sedentary behaviour, diet, and cancer: an update and emerging new evidence. Lancet Oncol 2017; 18: 457-71.
24. ฐิติกร โตโพธิ์ไทย, อรณา จันทรศิริ, ปฏิญญา พงษ์ราศรี. ข้อแนะนำการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และการนอนหลับ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บริษัท เอ็มซี คอนเซ็ปต์ จำกัด, 2560.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-02-21

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อัญชลี ณ, มุกตพันธุ์ เ. วิถีชีวิตและปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่น. SRIMEDJ [อินเทอร์เน็ต]. 21 กุมภาพันธ์ 2020 [อ้างถึง 13 ธันวาคม 2025];35(1):89-97. available at: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/SRIMEDJ/article/view/239917

ฉบับ

ประเภทบทความ

Original Articles