รูปแบบการนอนของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ:
รูปแบบการนอน; นักศึกษา; มหาวิทยาลัยบทคัดย่อ
หลักการและวัตถุประสงค์: นักศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี มีการเปลี่ยนแปลงของชีวิตในหลายด้าน ซึ่งอาจทำให้มีลักษณะการนอนที่เปลี่ยนไป จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ด้านปัญหาและรูปแบบการนอนของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ 123 มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ประชากรศึกษาเป็นนักศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี ที่มารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ 123 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คำนวณขนาดตัวอย่างได้ 120 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างตามกรอบเวลา เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามชนิดตอบเอง ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลด้านการนอนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และข้อมูลด้านความต้องการเพิ่มเติมของนักศึกษาที่เกี่ยวกับปัญหาการนอน วิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมาน
ผลการศึกษา: นักศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 120 ราย ส่วนใหญ่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน คิดเป็นร้อยละ 47.5 (95%CI: 38.38, 56.78) ส่วนใหญ่เริ่มต้นนอนในช่วงเวลา 24.00 – 2.00 น. ตื่นนอนในช่วงเวลา 6.00 – 8.00 น. จำนวนชั่วโมงที่นอนมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน ในนักศึกษาที่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน พบว่าร้อยละ 52.6 ใช้ระยะเวลามากกว่า 30 นาทีตั้งแต่เริ่มนอนจนกว่าจะนอนหลับ ร้อยละ 29.8 เข้านอนหลัง 2.00 น. และร้อยละ 33.3 นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน
สรุป: นักศึกษาส่วนใหญ่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน นักศึกษาในกลุ่มที่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน มักจะมีปัญหาในช่วงเริ่มต้นของการนอน และจำนวนชั่วโมงที่นอนในแต่ละวันน้อยกว่า 5 ชั่วโมง ดังนั้นในการดูแลประชากรที่เป็นนักศึกษา ควรมีการคัดกรองและให้ความรู้กับนักศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการนอน
เอกสารอ้างอิง
2. พูนศรี รังสีขจี. วงจรชีวิต: วัยผู้ใหญ่ตอนต้น-วัยชรา. ใน: นิรมล พัจนสุนทร, พูนศรี รังสีขจี, บรรณาธิการ. พฤติกรรมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 3. ขอนแก่น: ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2553. หน้า 13-26.
3. Kann L, Kinchen S, Shanklin SL, Flint KH, Kawkins J, Harris WA, et al. Youth risk behavior surveillance--United States, 2013. MMWR Suppl 2014; 63: 1-168.
4. Schneider LA, King DL, Delfabbro PH. Family factors in adolescent problematic Internet gaming: A systematic review. J Behav Addict 2017; 6: 321-33.
5. Lewinsohn PM, Clarke GN. Psychosocial treatments for adolescent depression. Clin Psychol Rev 1999; 19: 329-42.
6. Gonzaga GC, Keltner D, Londahl EA, Smith MD. Love and the commitment problem in romantic relations and friendship. J Pers Soc Psychol 2001; 81: 247-62.
7. Hammen C1, Brennan PA, Keenan-Miller D. Patterns of adolescent depression to age 20: the role of maternal depression and youth interpersonal dysfunction. J Abnorm Child Psychol 2008; 36: 1189-98.
8. Pizarro KW, Bustamante IV, Surkan PJ. Family Factors and Adolescent Problem Drinking in a High-Risk Urban Peruvian Neighborhood. Subst Use Misuse 2017; 52: 194-202.
9. Becker SP, Jarrett MA, Luebbe AM, Garner AA, Burns GL, Kofler MJ. Sleep in a large, multi-university sample of college students: sleep problem prevalence, sex differences, and mental health correlates. Sleep Health 2018; 4: 174-81.
10. ลัลลิยา ธรรมประธานกุล. ปัญหาการนอนในวัยรุ่น. ใน: รสวันต์ อารีมิตร, สุภิญญา อินอิว, บุญยิ่ง มานะบริบูรณ์, ศิริไชย หงษ์สงวนศรี, สมจิตร์ จารุรัตนศิริกุล, บรรณาธิการ. ตำราเวชศาสตร์วัยรุ่น. นนทบุรี: ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์; 2559: 443-54.
11. Tarokh L, Raffray T, Van Reen E, Carskadon MA. Physiology of normal sleep in adolescents. Adolesc Med State Art Rev 2010; 21: 401-17.
12. ผาณิตา ชนะมณี, สุนุตตรา ตะบูนพงศ์, ถนอมศรี อินทนนท์. คุณภาพการนอนหลับของนักศึกษามหาวิทยาลัย. สงขลานครินทร์เวชสาร 2549; 24: 163-73.
13. อรุณ จิรวัฒน์กุล. การเลือกตัวอย่างผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ณ ช่วงเวลาที่กำหนด. ภาควิชาสถิติและประชากรศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2547.
14. ปภิศา นิ่มอนงค์. การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพในการนอนหลับกับผลการเรียนและพฤติกรรมเสี่ยงของนักศึกษาแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล; 2557 [เข้าถึงเมื่อ 18 ก.ค 2562]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ped.si.mahidol.ac.th/thesis/image/5501009.pdf
15. ผาณิตา ชนะมณี, สุนุตตรา ตะบูนพงศ์, ถนอมศรี อินทนนท์. คุณภาพการนอนหลับและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของนักศึกษามหาวิทยาลัยในภาคใต้. สงขลานครินทร์เวชสาร 2549; 24: 163-73.
16. Lund HG, Reider BD, Whiting AB, Prichard JR. Sleep patterns and predictors of disturbed sleep in a large population of college students. J Adolesc Health 2010; 46: 124-32.
17. Lack LC, Wright HR. Chronobiology of sleep in humans. Cell Mol Life Sci 2007; 64: 1205-15.
18. Drake C, Richardson G, Roehrs T, Scofield H, Roth T. Vulnerability to stress-related sleep disturbance and hyperarousal. Sleep 2004; 27: 285–91.
19. Jose PE, Ratcliffe V. Stressor frequency and perceived intensity as predictors of internalizing symptoms: gender and age differences in adolescence. N Z J Psychol 2004; 33: 145–54.
20. Buboltz WC Jr, Brown FC, Soper B. Sleep habits and patterns of college students: a preliminary study. J Am Coll Health 2001; 50: 131–5.
21. Kubota K, Shimazu A, Kawakami N, Takahashi M, Nakata A, Schaufeli WB. Association between workaholism and sleep problems among hospital nurses. Ind Health 2010; 48: 864-71.
22. Hazama GI, Inoue Y, Kojima K, Ueta T, Nakagome K. The prevalence of probable delayed-sleep-phase syndrome in students from junior high school to university in Tottori, Japan. Tohoku J Exp Med 2008; 216: 95-8.
23. นาฎนภา อารยะศิลปธร, พัชนี สมกำลัง, จรัสศรี สีลาวุธ, จันทร์จิรา ภูบุญเอิบ, จิราภรณ์ มุลเมืองแสน. ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพการนอนหลับของนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่ง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี 2560; 28: 38-50.
24. Steptoe A, Peacey V, Wardle J. Sleep duration and health in young adults. Arch Intern Med 2006; 166: 1689-92.
