การทำนายความเข้มข้นของยาคาร์บาร์มาซีปีนในซีรั่มในผู้ป่วยไทยที่เป็นโรคลมชักโดย แบบจำลองเภสัชจลนพลศาสตร์ประชากรที่ปรับแล้ว
DOI:
https://doi.org/10.69598/tbps.10.2.12-22Keywords:
คาร์บามาซีปีน, เภสัชจลนพลศาสตร์ประชากร, โรคลมชักAbstract
วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยครั้งนี้ต้องการทำนายค่าความเข้มข้นของยาคาร์บาร์มาซีปีนในซีรั่มที่สภาวะคงที่โดยอาศัยค่าอัตราการขจัดยา (CL/F) จากแบบจำลองเภสัชจลนพลศาสตร์ประชากรของเกรฟ, ไรทช์, ชาน, เจา 2003 และเจา 2004 และค่าจากแบบจำลองดังกล่าวที่ปรับ นอกจากนี้ยังต้องการเปรียบเทียบค่าอคติ (bias) (mean error, me) และค่าความแม่นยำ (precision) (root mean square error, rmse) เพื่อเลือกแบบจำลองที่เหมาะสมที่สุด โดยใช้การเก็บข้อมูลระดับยาคาร์บาร์มาซีปีนในซีรั่มของผู้ป่วยโรคลมชักที่มารับรักษา ณ แผนกผู้ป่วยนอกของสถาบันประสาทวิทยา จำนวน 99 ราย และโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 32 ราย รวมทั้งสิ้น 131 ราย โดยการเก็บข้อมูลแบบติดตามไปข้างหน้า โดยเลือกแบบจำลองประชากรที่มีค่าอคติและค่าความแม่นยำใกล้ค่าศูนย์ที่สุด เป็นแบบจำลองที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยชาวไทยที่เป็นโรคลมชัก นอกจากนี้มีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมอีกจำนวน 40 ราย เพื่อทดสอบแบบจำลอง (model validation) ประชากรที่เลือกแล้วกับแบบจำลองต้นแบบที่ศึกษา
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า แบบจำลองประชากรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยชาวไทยที่เป็นโรคลมชัก ได้จากการปรับแบบจำลองของเจา 2004 โดยแบบจำลองดังกล่าวเป็นดังนี้ CL/F (L/hr) = 0.165 x dose (mg/d) 0.41 x TBW (kg) 0.11 x 1.25 VPA x 1.18 PHT x 1.27 PB และเมื่อได้ค่า CL นำไปคำนวณต่อหา C ssmin (mg/mL) = Dose (mg/day)/CL (L/day) โดยค่า Mean Error เท่ากับ 0.02 (95%CI -0.3, 0.40) และ ค่า Root Mean Square Error เท่ากับ 2.13 (95%CI 1.83, 2.38) ซึ่งต่ำที่สุดแสดงว่ามีค่าอคติต่ำ และความแม่นยำสูง เมื่อทดสอบโดยใช้ข้อมูลกับผู้ป่วยจำนวน 40 ราย เปรียบเทียบกับแบบจำลองอื่น ๆ พบว่าแบบจำลองที่ปรับแล้วมีค่า Mean Error เท่ากับ -0.96 (95%CI -1.67, -0.26) และมีค่า Root Mean Square Error เท่ากับ 2.39 (95%CI 1.80, 2.85) เมื่อทดสอบความแตกต่างของค่า Mean Error ของแบบจำลองที่ปรับแล้วกับแบบจำลองอื่นทีละคู่ พบว่าแบบจำลองของเจา 2004 ที่ปรับแล้วมีค่า Mean Error ต่ำกว่าแบบจำลองของไรทช์, เจา 2003 และ เจา 2004 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ p=0.004, p<0.001 และ p<0.001 ตามลำดับ และแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ กับแบบจำลองของเกรฟและชาน ส่วนการทดสอบความแตกต่างของค่า Root Mean Square Error ของแบบจำลองของเจา 2004 ที่ปรับแล้ว กับแบบจำลองอื่น ๆ ทีละคู่ พบว่าแบบจำลองที่ปรับแล้ว แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญกับแบบจำลองของเกรฟ แต่แตกต่างจากแบบจำลองของ ไรทช์, ชาน, เจา 2003 และเจา 2004 อย่างมีนัยสำคัญที่ p=0.034, 0.002, 0.005 และ 0.001 ตามลำดับ
จากผลการศึกษาที่ได้สรุปได้ว่าแบบจำลองของเจา 2004 ที่ปรับแล้ว เป็นแบบจำลองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยชาวไทยที่เป็นโรคลมชัก สามารถทำนายได้แม่นยำและเที่ยงตรงกว่าแบบจำลองเดิมของเกรฟ, ไรทช์, ชาน, เจา 2003 และเจา 2004
Downloads
How to Cite
Issue
Section
License
All articles published and information contained in this journal such as text, graphics, logos and images is copyrighted by and proprietary to the Thai Bulletin of Pharmaceutical Sciences, and may not be reproduced in whole or in part by persons, organizations, or corporations other than the Thai Bulletin of Pharmaceutical Sciences and the authors without prior written permission.