การฝึกวิปัสสนาสมาธิวิถีพุทธเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มสมรรถภาพของหัวใจในผู้ป่วยหลังผ่าตัดเบี่ยงเบนหลอดเลือดหัวใจ

ผู้แต่ง

  • สุเทพ ทักษิณาเจนกิจ
  • มณฑนา ดอนโสม
  • พระพุฒินาท อมรธมโม/ทรงสมบัติชัย
  • กัลยา ทักษิณาเจนกิจ
  • วรรณกานต์ เพ็ชรรุ้งรัตน์
  • โสภา ศรีสวัสดิ์
  • จริยา ศรีสุก

คำสำคัญ:

การผ่าตัดเบี่ยงเบนหลอดเลือดหัวใจ(CABG); วิปัสสนาสมาธิ; การทดสอบการเดิน 6 นาที(6MWT); ค่าอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงใน 1 ชั่วโมง (ESR)

บทคัดย่อ

หลักการและวัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลการฝึกวิปัสสนาสมาธิในผู้ป่วยหลังผ่าตัดเบี่ยงเบนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Bypass Grafting; CABG) ต่อ 1) อัตราการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะและระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล  2) การทดสอบการเดิน 6 นาที (6MWT)และ 3) ค่าอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงใน 1 ชั่วโมง (ESR)  

วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษากึ่งทดลอง แบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่มคือ 1) กลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ฝึกวิปัสสนาสมาธิ 21 รายและ 2) กลุ่มทดลองที่ให้ความร่วมมือในการฝึกวิปัสสนาสมาธิ  21 ราย  ระยะเวลาการศึกษา 1 ปี 6 เดือน เก็บข้อมูลตามแบบบันทึก 3 ชุดคือ 1. สัญญาณชีพและคลื่นไฟฟ้าหัวใจใน 3 วันแรกหลังผ่าตัด 2. ทดสอบ 6MWT ภายหลังผู้ป่วยกลับบ้านได้ 2 สัปดาห์ และ 6 สัปดาห์ และ3. ตรวจค่า ESR ในวันที่ 1-5 หลังผ่าตัด

ผลการศึกษา: พบว่า 1) อัตราการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะและจำนวนวันที่นอนโรงพยาบาล ภายหลังการผ่าตัดเบี่ยงเบนหลอดเลือดหัวใจของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมไม่ต่างกัน (p=1.00 และ p=0.6809 ตามลำดับ)  2) ระยะทาง 6MWT ภายหลังกลับบ้านได้ 2 และ 4 สัปดาห์  ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมไม่ต่างกัน (p=0.5030 และ p=0.3839 ตามลำดับ) แต่ในกลุ่มทดลองภายหลังกลับบ้านได้ 6 สัปดาห์ มีระยะทางมากกว่าภายหลังกลับบ้าน 2 สัปดาห์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.0003) ในขณะที่ภายในกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกันและ3) ค่า ESR ภายหลังการผ่าตัดเบี่ยงเบนหลอดเลือดหัวใจระหว่างสองกลุ่มตั้งแต่วันที่ 1-5 ไม่ต่างกัน      

สรุป: การฝึกวิปัสสนาสมาธิก่อนผ่าตัดส่งผลเพิ่มระยะทาง 6MWT ในผู้ป่วยหลังผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจภายหลังกลับบ้านได้ 6 สัปดาห์  ดังนั้นควรมีการส่งเสริมให้มีการฝึกวิปัสสนาสมาธิในผู้ที่จะผ่าตัดหัวใจ

เอกสารอ้างอิง

1.ประทีป อัศวภูมิ,อารี สุทธิอาจ,ฐิติภา อายุเกษม และศรุดา เสนพงษ์. สรุปสถิติที่สำคัญ พ.ศ. 2556[อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข; 2556 [เข้าถึงเมื่อ 18 ต.ค. 2556]. เข้าถึงได้จาก http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/statistical2556.pdf
2.Fiorina C, Vizzardi E, Lorusso R, Maggio M, De Cicco G, Nodari S, et al. The 6-min walking test early after cardiac surgery. Reference values and the effects of rehabilitation programme. Eur J Cardiothorac Surg 2007;32: 724-9.
3.Herbert F. Jelinek, Zhaoqi Q. Huang, Ahsan H. Khandoker, Dennis Chang, and Hosen Kiat. Cardiac rehabilitation outcomes following a 6-week program of PCI and CABG Patients. Front Physiol 2013; 4: 302.
4.งานเวชระเบียนและสถิติ. สถิติผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ ปี 2552-2556 [เอกสาร]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2556.
5.Martin CG, and Turkelson SL. Nursing care of the patient undergoing coronary artery bypass grafting. Eur J Cardiovasc Nurs 2006 ; 21: 109-17.
6.ธิติสุดา สมเวที,ลินจง โปธิบาล และภารดี นานาศิลป์. ผลของการปฏิบัติสมาธิเคลื่อนไหวไทยซี่กงต่อ ความดันโลหิตในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง.พยาบาลสาร 2554; 38: 81-92.
7.ประภาส จิบสมานบุญ,อุบล สุทธิเนียม. สมาธิบำบัด SKT 2 ต่อระดับความดันโลหิตและตัวบ่งชี้ทางเคมี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ 2556; 29: 122-32.
8.สมพร กันทรดุษฎี. การปฏิบัติสมาธิเพื่อการเยียวยาสุขภาพ กรุงเทพฯ.โรงพิมพ์ทหารผ่านศึก. 2549.
9.Lazer SW, Bush G, Gollub RI, Friechione GI, Khalsa G, Benson H. Functional brain mapping of the relaxation response and meditation [Autonomic Nervous System]. Neuroreport 2000; 11: 1581-5.
10.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ. Mind and Body Medicine ตอนที่ 2 สมาธิบำบัด.วารสารสำนักการแพทย์
ทางเลือก 2555; 4: 9-16.
11.Davidson RJ, Kabat-Zinn J, Schumacher J, Rosenkranz M, Muller D, Santorelli SF, et al. Alterations in brain and immune function produced by mindfulness meditation. Psychosom Med 2003; 65: 564-70.
12.Cohen J. Statistical power analysis for the behavioralsciences. 2nd ed. Lawrence Erlbaum Associates Publishers; 1988: 1-599.
13.แพรวพรรณ สุวรรณกิจ, ประกายดาว สุขเทศ, ศตวรรษ วงษา, อรอุมา อุดทา. ผลของการฝึกสหจะโยคะ
สมาธิต่อความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และความเครียดในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง.วารสาร
การพยาบาลและสุขภาพ. 2553; 4: 28-35.
14.บุญใจ ศรีสถิตนรากูร.ระเบียบวิธีวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ. ยูแอนด์โอ อินเตอร์
มีเดีย. 2547.
15.Peretto G, Durante A, Limite L R, Cianflone D. Review Article: Postoperative Arrhythmias after Cardiac Surgery; Incidence, Risk Factors, and Therapeutic Management. Cardiol Res Pract 2014: 1-15.
16.American Thoracic Society. Guidelines for the Six-Minute Walk Test. American Journal Of Respiratory and Critical Care Medicine 2002: 111-7.
17.Bittner V, Weiner DH, Yusuf S, Rogers WJ, McIntyre KM, Bangdiwala SI, et al. Prediction of mortality and morbidity with a 6-minute walk test in patients with left ventricular dysfunction. SOLVD Investigators. JAMA 1993; 270: 1702-7.
18.ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต.ภาวะการอักเสบในร่างกายเกิดขึ้นได้อย่างไร[อินเทอร์เน็ต].กรุงเทพฯ:แอ็บโซลูท เฮลธ์ คลินิก[เข้าถึงเมื่อ 18 ต.ค. 2556]. เข้าถึงได้จาก http://www.absolute-health.org/thai/article-th-040.htm
19.Togan T,Gunday M,Ciftci O. and Bingol H. Can preoperative erythrocyte sedimentation rate serve as an indicator for midterm adverse events after coronary bypass grafting? Heart Surg Forum 2015 ;18: E047-52. doi: 10.1532/hsf.1245.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-07-03

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ทักษิณาเจนกิจ ส, ดอนโสม ม, อมรธมโม/ทรงสมบัติชัย พ, ทักษิณาเจนกิจ ก, เพ็ชรรุ้งรัตน์ ว, ศรีสวัสดิ์ โ, ศรีสุก จ. การฝึกวิปัสสนาสมาธิวิถีพุทธเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มสมรรถภาพของหัวใจในผู้ป่วยหลังผ่าตัดเบี่ยงเบนหลอดเลือดหัวใจ. SRIMEDJ [อินเทอร์เน็ต]. 3 กรกฎาคม 2019 [อ้างถึง 20 ธันวาคม 2025];34(4):367-73. available at: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/SRIMEDJ/article/view/200757

ฉบับ

ประเภทบทความ

Original Articles