ผลกระทบของการใช้สมาร์ทโฟนในการพิมพ์ข้อความโต้ตอบต่อความเร็วการเดินในวัยรุ่น
คำสำคัญ:
สมาร์ทโฟน; ความเร็วในการเดิน; การพิมพ์ข้อความโต้ตอบบทคัดย่อ
หลักการและวัตถุประสงค์: วัยรุ่นให้ความสนใจกับการใช้โซเชียลมิเดียผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งการส่งข้อความโต้ตอบ การแบ่งปันภาพถ่าย หรือการสนทนา โดยใช้สมาร์ทโฟนทุกที่ เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ การเดินทางสาธารณะ หรือ ขณะเดิน เป็นต้น ถึงแม้ว่าการใช้โซเชียลมิเดียผ่านสมาร์ทโฟนจะมีประโยชน์แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน การใช้สมาร์ทโฟนขณะเดินอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเร็วในการเดินได้ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือเพื่อเปรียบเทียบความเร็วในการเดินระหว่างใช้และไม่ใช้สมาร์ทโฟนขณะเดินในกลุ่มวัยรุ่นที่เสพติดการใช้อินเตอร์เนต
วิธีการศึกษา: อาสาสมัครจำนวน 25 ราย ที่มีอายุระหว่าง 12-16 ปี ร่วมกับการเสพติดอินเตอร์เนตระดับปานกลาง ประเมินด้วยแบบประเมินพฤติกรรมการเสพติดอินเตอร์เนต (IADQ) ได้รับการเชิญเข้าร่วมการศึกษานี้ อาสาสมัครทุกรายได้รับการประเมินความเร็วในการเดินด้วยการเดิน 10 เมตรใน 2 เงื่อนไข เงื่อนไขที่ 1 อาสาสมัครได้รับคำแนะนำให้เดินโดยไม่ใช้สมาร์ทโฟน เงื่อนไขที่ 2 อาสาสมัครต้องส่งข้อความโต้ตอบโดยใช้สมาร์ทโฟนขณะเดิน ข้อมูลความเร็วในการเดินถูกวิเคคราะห์ด้วยสถิติ Independent-sample T test โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ p < 0.05
ผลการศึกษา: อาสาสมัครที่ใช้สมาร์ทโฟนพิมพ์ข้อความโต้ตอบขณะเดินใช้เวลาในการเดินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งความเร็วแบบปกติ (เพิ่มขึ้น 0.12 เมตร/วินาที, p < 0.000) และ ความเร็ซสูงสุด (เพิ่มขึ้น 0.3 เมตร/วินาที, p < 0.000)
สรุป: การส่งข้อความโต้ตอบโดยใช้สมาร์ทโฟนขณะเดินลดความเร็วในการเดินในกลุ่มวัยรุ่นที่เสพติดอินเตอร์เนตระดับปานกลาง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการล้มขณะเดินได้ อย่างไรการศึกษาในอนาตตควรศึกษาในกลุ่มวัยรุ่นที่เสพติดอินเตอร์เนตระดับระดับอื่นๆ ร่วมด้วย
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานสถิติแห่งชาติกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. National statistical Office Ministry of Digital Economy and Society. การสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2561 (ไตรมาส1) [ออนไลน์]. 2561 [สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2563]. จาก http://www.nso.go.th/sites/2561/FullReportICT_61.pdf
3. Sharma A, Sahu R, Kaser PK, Sharma R. Internet addiction among professional courses students: a study from Central India. Int J Med Sci Public Health. 2014; 3(9): 1069-1073.
4. วรรณคล เชื้อมงคล, ธีรวิทย์ อินทิตานนต์, จตุพร หวังเสต. ผลของการใช้สมาร์ทโฟนและเท็บเล็ต๖ฮสุขภาพและผลการเรียนของนิสิตเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรนครินทร์วิโรฒ. ศรีนครินทร์เวชสาร 2562; 34: 90-98.
5. Yoshiki S, Tatsumi H, Tsutsumi K, Miyazaki T, Fujiki T. Effects of smartphone use on behavior while walking. URPR 2017; 4: 138-150.
6. Rebold MJ, Lepp A, Sanders GJ, Barkler JE. The impact of cell phone use on the intensity and linkinf of a bout of treadmill exercise. PLOS [serial on the Internet. 2015 May [cited Mar 20, 2020] 1-12. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4430384/
7. Barkley JE, Lepp A. Cellular telephone use during free-living walking significantly reduces average walking speed. BMC Res Notes 2016; 9: 195.
8. เอมิกา เหมมินทร์, ปรีชา วิจิตรธรรมรส. พฤติกรรมการใช้และความคิดเห็นเกี่ยวกับผลที่ได้จากการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Media) ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต 2557; 16: 120-140.
9. Parr ND, Hass CJ, Tillman MD. Cellular phone texting impair gait in able-bodied young adults. JAB 2014; 30: 685-688.
10. Adolescent health and development. Approved by Child and adolescent health unit, Department of family health gender and life course (FGL) in 2019: World Health Organization in South-East Asia / Available from: http://www.searo.who.int/entity/child_adolescent/topics/adolescent_health/en/
11. Ade D, Khare A, Kayande. Study of internet addiction in undergraduate medical students. IOSR-JDMS 2018; 17 (3): 51-55.
12. Volpini Lana MR, da Cruz dos Anjos DM, Moura Batista AC, Martind E, Oliveira de Souza KC and Leocadio RM. Comparison of reliability between a ten-metre and a one-mintue walking test in children and adolescents with cerebral palsy at mean velocity. Phys Med Rehabil 2017; 4(2): 1116.
13. Tommy Oberg, Alek Karsznia, Kurt Oberg. Basic gait parameters: Reference data for normal subjects, 10-79 years of age. J Rehabil Res Dev 1993; 30(2): 210-23.
14. Chui K, Hood E, Klima D. Meaningful change in walking speed. TGR 2012; 28(2): 97-103.
15. Clark DJ. Automaticity of walking: functional significance, mechanisms, measurement and rehabilitation strategies. Frontiers in Human Neuroscience 2015; 9: 1-13.
16. Lim J, Amado A, Sheehan L, Van Emmerik E.A. Dual task interference during walking: the effect of texting on situational awareness and gait stability. Gait & Posture 2015; 42(4): 466-71.
