ผลลัพธ์ของการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตวัยรุ่นที่มีภาวะปากแหว่ง เพดานโหว่ในจังหวัดขอนแก่น

ผู้แต่ง

  • ยุพิน ปักกะสังข์ แผนกการพยาบาลศัลยกรรมและออร์โธปิดิกส์, งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • สุธีรา ประดับวงษ์ ศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • ชิโนรส ปิยกุลมาลา ศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • พัชริดา ชูสุข ศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • นันท์นลิน มุ่งมานิตย์มงคล ศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • พัทธ์ชนก เชาวน์ชื่น มูลนิธิตะวันฉายเพื่อผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่และพิการทางศีรษะและใบหน้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • ฐิตินันท์ สุพรรณคุ้ม มูลนิธิตะวันฉายเพื่อผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่และพิการทางศีรษะและใบหน้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • ณัฐริกา กองทอง โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

คำสำคัญ:

ปากแหว่ง เพดานโหว่, กิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต, วัยรุ่น

บทคัดย่อ

หลักการและเหตุผล: วัยรุ่นอยู่ในช่วงการสร้างสัมพันธภาพกับสังคม มีเอกลักษณ์และการครองตน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพชีวิต การจัดกิจกรรมและการประเมินผลลัพธ์ของการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตวัยรุ่นที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ จึงเป็นสิ่งสำคัญ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลลัพธ์ของการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตวัยรุ่นที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ในจังหวัดขอนแก่น

วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา เลือกกลุ่มตัวอย่างที่เป็นวัยรุ่นแบบเจาะจง 15 ราย ช่วงเช้าแบ่งกลุ่มวัยรุ่นเป็น 3 กลุ่ม เวียนฐาน ส่งเสริมสุขภาพกาย จิต และสังคม แบ่งผู้ปกครอง 17 ราย เป็น 2 กลุ่ม เวียนฐาน ชมวิดิทัศน์ให้ความรู้ และกำลังใจ ช่วงบ่ายรวมกลุ่มแล้วแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ส่งเสริมสุขภาพจิตและสังคม เก็บข้อมูลโดยการสังเกตพฤติกรรมวัยรุ่น ประเมินความรู้ผู้ปกครองก่อน-หลังชมวิดิทัศน์ และประเมินความพึงพอใจของวัยรุ่นและผู้ปกครอง โดยใช้ แบบสังเกต แบบทดสอบความรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบ Paired t-test ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพทำการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษา: วัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรม 15 ราย เป็นเพศชาย 8 ราย อายุเฉลี่ย 16.07 ± 3.06 ปี  ได้รับการตรวจสุขภาพทุกราย อยู่ในช่วงจัดฟัน มีความมั่นใจ กล้าคิด กล้าแสดงออก ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของตนเอง เข้าใจความแตกต่างของบุคคล มีส่วนร่วมในการคิดและวางแผน มีสมาธิ ฝึกความจำ มีความเป็นพรรคพวก และสนุกสนาน ผู้ปกครองมีความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ p =0.005 ผู้ร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ =4.73, S.D=0.41)

สรุป: การจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ปกครอง  ควรจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้วัยรุ่นปากแหว่งเพดานโหว่ได้พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เอกสารอ้างอิง

Wongkham J, Pradubwong S, Chatvised P, Ratanasiri T. Evidence-triggers for care of patient with cleft lip and palate at Srinagarind hospital: Antenatal care unit. J Med Assoc Thai 2016;99(Suppl 5):51-7.

Pradubwong S, Surit P, Pongpagatip S, Petcharat T, Chowchuen B. Evidence-triggers for care of patient with cleft lip and palate in Srinagarind hospital: The Tawanchai center and out-paitents surgical room. J Med Assoc Thai 2016;99(Suppl 5):43-50.

Chinchai S, Rattakorn P, Sonsuwan N, Khwanngern K, Lekmool S. Feeding problems and treatment in cleft lip and cleft palate children. J Assoc Med Sci 2017;50(3):533- 43.

Ooppanasak N, Makarabhirom K, Chowchuen B, Prathanee B. Speech outcomes in children with cleft and palate: Srinagarind hospital, Khon Kaen University, Thailand. J Med Assoc Thai 2019;102(Suppl 5):10-7.

Weraarchakul W, Weraarchakul W. Dental caries in children with cleft lip and palate. J Med Assoc Thai 2017;100(Suppl 6):131-5.

Klassen AF, Tsangaris E, Forrest CR, Wong KW, Pusic AL, Cano SJ, et al. Quality of life of children treated for cleft lip and/or palate: A systematic review. J Plast Reconstr Aesthet Surg 2012;65(5):547-57. doi.org/10.1016/j.bjps.2011.11.004

World Health Organization. Community-based rehabilitation: CBR guidelines [Internet]. Melta: WHO Press; 2010 [cited Nov 23, 2021]. Available from: http://www.who.int/disabilities/cbr/en/

Wannasir T, Pratakkulvongsa S. The development of relationship between adolescent and elders in their families in Prongmadeur community. Area Based Development Research Journal 2016;8(1):102-15.

Ungsamran W, Vaeteewootacharn K. Factors associated with parents bringing children with cleft lip and/or cleft palate for delayed surgical treatment. The Journal of Baromarajonani College of Nusing, Nakhonratchasima 2016;22(1):37-51.

Chonprai C, Rod-Ong D, Maneeganondh S, Jaruensook W, Theeyoung A, Patjanasoontorn N. Improving social and life skills in children with cleft lip and palate. J Med Assoc Thai 2019;102(Suppl 6):79-82.

Samretdee H, Singkhornard J, Rod-Ong D, Maneeganondh S, Theeyoung A, Patjanasoontorn N. Self-esteem of patients with cleft-lip cleft-palate attending the self-esteem enhancement program camp activities. J Med Assoc Thai 2018;101(Suppl 5):59-63.

Pradubwong S, Pongpagatip S, Winaikosol K, Jenwiteesuk K, Surakunprapha P, Chowchuen B. Treatment outcomes of 4 to 7-year-old patients with cleft lip and cleft palate in Tawanchai center, Srinagarind hospital. J Med Assoc Thai 2019;102(Suppl 5):73-8.

Punyavong P, Pradubwong S, Winaikosol K, Jenwitheesuk K, Surakunprapha P, Chowchuen, B. Treatment outcomes in four- to seven-year-old patients with cleft lip and cleft palate in tawanchai center, Srinagarind hospital: Fistula incidence after cleft palate repair. J Med Assoc Thail 2019;102(Suppl 5):5-9.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-10-26

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ปักกะสังข์ ย, ประดับวงษ์ ส, ปิยกุลมาลา ช, ชูสุข พ, มุ่งมานิตย์มงคล น, เชาวน์ชื่น พ, สุพรรณคุ้ม ฐ, กองทอง ณ, เชาวน์ชื่น บ. ผลลัพธ์ของการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตวัยรุ่นที่มีภาวะปากแหว่ง เพดานโหว่ในจังหวัดขอนแก่น. SRIMEDJ [อินเทอร์เน็ต]. 26 ตุลาคาม 2023 [อ้างถึง 12 ธันวาคม 2025];38(5):515-21. available at: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/SRIMEDJ/article/view/254872

ฉบับ

ประเภทบทความ

Original Articles