ความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำถาวรหลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์

บทคัดย่อ

หลักการและวัตถุประสงค์: ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย หลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ ซึ่งผู้ป่วยอาจต้องได้รับแคลเซียมทดแทนไปตลอดชีวิต ภาวะนี้อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ คืออาจเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะแคลเซียมต่ำ หลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ ได้แก่ เพศ อายุ ระยะเวลาการผ่าตัด ผลชิ้นเนื้อ การเสียเลือดในการผ่าตัด การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะแคลเซียมต่ำที่เกิดในโรงพยาบาลสุรินทร์ รวมถึงปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้องต่อการเกิดภาวะแคลเซียมต่ำ

วิธีการศึกษา : เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาจากข้อมูลย้อนหลัง ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ชนิด การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด หรือ การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ให้สมบูรณ์ และมีหลักฐานการรักษาภาวะขาดแคลเซียม ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือน ตุลาคม พ.ศ.2564 - กันยายน  พ.ศ. 2565 จำนวน 118 ราย บันทึกข้อมูล ด้านเพศ อายุ น้ำหนักชิ้นเนื้อ ระยะเวลาการผ่าตัด การประมาณการเสียเลือดจากการผ่าตัด ระดับพาราไทรอยด์ฮอร์โมนหลังการผ่าตัด 24-48 ชั่วโมง การเกิดภาวะแคลเซียมต่ำที่ระยะวลา 6 เดือนหลังการผ่าตัด

ผลการศึกษา :  ผู้ป่วย 118 ราย อายุเฉลี่ย 48.33±17.44 ปี  ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 83.05 มีอัตราการเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำแบบถาวร ร้อยละ 73.56 โดยพบว่าเพศหญิงเพิ่มโอกาสการเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำแบบถาวร 3.04 เท่า (95%CI 1.019  -  9.078)  การเสียเลือดจากการผ่าตัดตั้งแต่ 200 มิลลิลิตร อาจเพิ่มโอกาสการเกิดแคลเซียมในเลือดต่ำแบบถาวร  2.77 เท่า (95%CI 0.289 -  26.597) แต่ไม่พบนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.377)

สรุป :  การเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำแบบถาวรที่โรงพยาบาลสุรินท์มีอัตราความชุกที่สูง อาจเนื่องมาจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับการผ่าตัดเป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ โดยพบว่าเพศหญิงจะมีโอกาสเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำแบบถาวรสูงกว่าชาย