การประเมินประสิทธิภาพของการฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กโดยการใช้ส่วนเชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้ผ่านเกมคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กพิการ ผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา
คำสำคัญ:
ส่วนเชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้, กล้ามเนื้อมัดเล็ก, ความบกพร่องทางสติปัญญา, เกมการศึกษาบทคัดย่อ
ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในรูปแบบของเกมเข้ามาช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กผู้บกพร่องทางสติปัญญาอยู่มาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านต่างๆ อาทิ คณิตศาสตร์ การอ่าน และการเขียน เป็นต้น อย่างไรก็ตามการนำเทคโนโลยีเชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบจับต้องได้ และเลียนแบบการจับต้องที่เป็นธรรมชาติ มาช่วยในกิจกรรมบำบัดเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งเป็นความบกพร่องอีกด้านหนึ่งของเด็กผู้บกพร่องทางสติปัญญานั้น ตามที่ทำการสืบค้นยังไม่มีผู้นำมาใช้ในการฝึก อีกทั้งในการฝึกการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กกับนักกิจกรรมบำบัด หรือครูฝึกจะเป็นผู้กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความสนใจและให้ความร่วมมือในการร่วมกิจกรรมตลอดจนเสร็จสิ้นและเป็นการปฏิบัติซ้ำๆ กับเด็กทุกคน ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงได้ทำการทดลองเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็กในเด็กผู้บกพร่องทางสติปัญญาจากการฝึกทักษะโดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้ผ่านเกมคอมพิวเตอร์ จำนวน 60 คน เพื่อเปรียบเทียบกับการฝึกทักษะปกติกับนักกิจกรรมบำบัด
จากผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ฝึกทักษะผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้ มีพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็กดีขึ้นโดยมีค่าแรงบีบมือเพิ่มขึ้น และเปรียบเทียบวิธีการระหว่างการฝึกโดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้ และการฝึกครู/นักกิจกรรมบำบัด มีค่าเฉลี่ยของค่าวัดแรงบีบมือแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 และเด็กมีความสนใจและสามารถฝึกจากอุปกรณ์เชื่อมต่อประสานแบบจับต้องได้เพิ่มขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ธานินทร์ รักสัตย์. 2549. การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เรื่อง จำนวนนับ สำหรับเด็กบกพร่องทางสติปัญญาระดับฝึกได้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. แหล่งที่มา: http://cmuir.cmu.ac.th/handle/6653943832/12149, 2 กรกฎาคม 2560.
นพวรรณ ศรีวงค์พานิช, ชนิสา เวชวิรุฬห์, วันทนี ผลสมบูรณ์, จันทร์เพ็ญ ธัชสินพงษ์, กิ่งสร เกาะประเสริฐ, ธีรพล เชื้อสุข, อนัญญา อนุพรวัฒนากิจ และ สุภาภรณ์ ระยันต์. 2560. บกพร่องทางสติปัญญาเรื่องภาวะบกพร่องทางสติปัญญา / ภาวะปัญญาอ่อน. แหล่งที่มา: http://rajanukul.go.th/main/_admin/images/groupreview/groupreview0000008.pdf, 2 กรกฎาคม 2560.
ผดุง อารยะวิญญู. 2542. การเรียนร่วมระหว่างเด็กปกติกับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ. โรงพิมพ์รำไทยเพรส จำกัด, กรุงเทพฯ.
เยาวพา เดชะคุปต์. 2528. กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน. โอเดียนสโตร์, กรุงเทพฯ.
สุรางค์ สุวรรณหล่อ. 2546. การใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. แหล่งที่มา: http://archive.lib.cmu.ac.th/full/T/2546/edel0546ss_abs.pdf, 2 กรกฎาคม 2560.
American Psychiatric Association. 2013. Neurodevelopmental Disorders, pp.31-86. In American Psychiatric Association. Diagnostic and statistical manual of mental disorders 5th ed. (DSM-5). American Psychiatric, Washington DC.
Black, B. and Wood, A. 2003. Utilizing Information Communication Technology to Assist the Education of Individuals with Down Syndrome. The Down Syndrome Educational Trust, Hampshire.
Choosri, N., Pookao, C., Swangtrakul, N. and Atkin, A. 2017. Tangible interface for stimulating child language cognitive skill. IADIS International Journal on WWW/Internet 15(2): 17-31.
Jeong, D., Kerci, E. and Lee K. 2010. TaG-Games: Tangible geometric games for assessing cognitive problem-solving skills and fine motor proficiency, pp. 32-37. In IEEE International Conference on Multisensor Fusion and Integration for Intelligence Systems. University of Utah, Salt Lake City, USA.
Felix, V., Mena, L., Ostos, R. and Maestre, G. 2017. A pilot study of the use of emerging computer technologies to improve the effectiveness of reading and writing therapies in children with Down syndrome. British Journal of Educational Technology 48(2): 611-624.
Guerrero, J.J., Guerrero, L., López, G., Cáliz, D. and Bravo, J. 2015. Creating TUIs using RFID sensors - A case study based on the literacy process of children with Down syndrome. Sensors (Basel) 15(7): 14845-14863.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็น ต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ถือเป็นลิขสิทธ์ของวารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใดๆจะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษ์อักษรจากวารสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยก่อนเท่านั้น



