การศึกษาระยะปลูกที่เหมาะสมกับพันธุ์ยางแนะนำ เพื่อผลผลิตเนื้อไม้และผลผลิตน้ำยาง ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน
DOI:
https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2017.13คำสำคัญ:
ยางพารา , พันธุ์ยาง, จำนวนต้นปลูก ต่อพื้นที่, ปริมาตรเนื้อไม้ , าคใต้ตอนบนบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาระยะปลูก และพันธุ์ยางที่เหมาะสมต่อการให้ผลผลิตเนื้อไม้ และผลผลิตน้ำยาง ของต้นยางพาราตั้งแต่ปลูกจนถึงอายุ 9 ปี (ปีพ.ศ. 2550 - 2559)วางแผนการทดลองแบบ Split plot in RCB 3 ซ้ำ main plot คือ ระยะปลูก 3 ระยะ ได้แก่ D1(3x3 ม.) D2 (3x4 ม.) และ D3 (4x4 ม.) subplot คือ พันธุ์ยางแนะนำ จำนวน 5 พันธุ์ ได้แก่RRIT 402, RRIT 403, RRIT 404, RRIT 408 และRRIT 412 ปลูกยางเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2550ในชุดดินฝั่งแดง ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุราษฎร์ธานี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าระยะปลูก และพันธุ์ยางมีผลต่อขนาดเส้นรอบวงลำต้น ความสูงของลำต้น และปริมาตรเนื้อไม้ D3D2 และ D1 มีขนาดเส้นรอบวงลำต้น 55.6053.33 และ 49.88 ซม. ตามลำดับ ส่วนของพันธุ์ยาง พบว่า พันธุ์ RRIT 404 มีขนาดเส้นรอบวงลำต้นมากที่สุด 55.36 ซม. สำหรับความสูงของลำต้น พบว่า D1 มีความสูงมากว่า D3 และ D2โดยมีความสูง 3.83 3.53 และ 3.47 ม. ตามลำดับ และพันธุ์ RRIT 404 มคี วามสงู ลำต้นสูงที่สุด 3.97 ม. ส่วนปริมาตรเนื้อไม้ พบว่า D1 ให้ปริมาตรเนื้อไม้สูงที่สุด 13.62 ลบ.ม/ไร่ รองลงมาคือ D2 10.93 ลบ.ม/ไร่ และ D3 ให้ปริมาตรเนื้อไม้ต่ำที่สุด 8.64 ลบ.ม/ไร่ โดยพันธุ์ RRIT 404 ให้ปริมาตรเนื้อไม้สูงที่สุด 13.92 ลบ.ม/ไร่ ขณะที่ผลผลิตน้ำยาง 2 ปีแรกของการกรีด พบว่า ระยะปลูกไม่มีผลต่อการให้ผลผลิตน้ำยาง แต่พันธุ์ RRIT404 และ RRIT 408 ให้ผลผลิตน้ำยางสูงที่สุด คือ289 กก./ไร่/ปี และ 298 กก./ไร่/ปี จากการตัดสางต้นยางร้อยละ 50 เมื่ออายุ 9 ปี เมื่อพิจารณาค่าการลงทุน และรายได้จากไม้ยางในสวนยางอายุ9 ปี พบว่า ระยะปลูกที่เหมาะสมในการให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน คือ D2 ระยะปลูก3x4 ม. และ พันธุ์ยางที่ให้ปริมาตรเนื้อไม้ และผลผลิตน้ำยางที่เหมาะสม คือ พันธุ์ RRIT 404
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการเกษตร