ข้าวพันธุ์และอัตราปุ๋ยที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมในดินนาเนื้อหยาบสภาพนาน้ำฝนของจังหวัด พิษณุโลก
DOI:
https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2004.16คำสำคัญ:
ผลตอบแทน, ขาวดอกมะลิ 105, ข้าวพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสู, ดินเนื้อหยาบ, นาน้ำฝนบทคัดย่อ
เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่างข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 กับข้าวพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงไม่ไวต่อช่วงแสง ในสภาพนาน้ำฝนที่เป็นดินเนื้อหยาบมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ดำเนินการทดลองเป็น 2 ระยะ ระยะแรกเปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่างข้าว 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ กข 23 ที่ปลูกแบบปักดำและหว่านน้ำตม โดยใส่ปุ๋ยอัตราต่างๆ คือ 0-0-0,4-2-1 8-4-2, 12-6-3 และ 16-8-4 กก.N-P2-O5-K2O/ไร่ ที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ระยะที่ 2 ทดสอบในแปลงนาเกษตรเปรียบเทียบผลตอบแทนของข้าว 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 กับพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงและไม่ไวต่อช่วงแสง 3 พันธุ์คือ ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 และชัยนาท 1 ใส่ปุ๋ย 2 อัตรา 6-3-1.5 และ 12-6-3กก. N-P2O5-K2O/ ไร่ เมื่อใส่ปุ๋ยอัตราต่ำ ( 0-4 กก.N/ ไร่) ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 จะให้ผลผลิต 619 -706 กก./ ไร่ซึ่งสูงกว่าพันธุ์ กข 23 ผลผลิต 450-494 กก./ ไร่ ที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก แต่เมื่อใส่ปุ๋ยอัตราสูงขึ้น ความแตกต่างของข้าวทั้ง 2 พันธุ์จะลดลงจาก 116 เหลือ36 ในนาดำ และในนาหว่านน้ำตมเมื่อใส่ปุ๋ยอัตรา 12- 16 กก N/ ไร่ ผลผลิตของข้าวพันธุ์ กข 23 สูงกว่าขาวดอกมะลิ 105 ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 สูงกว่า กข 23 ทั้งในนาดำและในนาหว่านน้ำตม ส่วนการทดสอบในนาเกษตรกรผลผลิตของข้าวทั้ง 2พันธุ์ ไม่แตกต่างกัน ในสภาพนาที่ดอนกักเก็บน้ำได้ยาก ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวพันธุ์ที่ไม่ไวต่อช่วงแสง แต่ถ้าสภาพนาสม่ำเสมอกักเก็บน้ำได้ ข้าวพันธุ์ต้นเตี้ยไม่ไวต่อช่วงแสงให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 สำหรับผลตอบแทนข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ข้าวต้นเตี้ยที่ไม่ไวต่อช่วงแสง
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการเกษตร