น้ำพระราชหฤทัยสู่พรรณไม้งาม

Abstract

น้ำพระราชหฤทัยสู่พรรณไม้งาม
“ในระหว่างที่ข้าพเจ้าเดินทางไปเยือนต่างประเทศครั้งล่าสุด ข้าพเจ้าได้พบกับผู้ทรงคุณวุฒิในด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติหลายท่าน ท่านเหล่านั้นได้แสดงความวิตกห่วงใยถึงภาวะการตัดไม้ทำลายป่าและสัตว์ต่างๆ ของประเทศไทยมาก ข้าพเจ้าจึงได้ตระหนักว่า ในขณะที่ผู้อื่นในต่างประเทศพยายามติดตามศึกษาหาความเคลื่อนไหวในด้านนี้ตลอดมา” (สำนักพระราชวัง 2534)
พระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถที่เชิญมาข้างต้น แสดงให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยป่าไม้และสัตว์ป่าของชาติ ซึ่งต้องถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก เพราะขาดการเอาใจใส่เท่าที่ควร โดยเฉพาะป่าไม้รวมตลอดถึงพรรณไม้อื่นๆ นั้นจัดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกับมนุษย์ ซึ่งจะต้องเอาใจใส่ดูแลรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่คู่กันมากับมนุษย์และสัตว์ ต้นไม้มีความสำคัญเท่าเทียบกับสิ่งมีชีวิตอื่น หากไม่มีต้นไม้ มนุษย์และสัตว์จะดำรงชีวิตอยู่มิได้ เพราะการมีชีวิตอยู่ได้ต้องอาศัยสารอาหารคาร์โบไฮเดรต มนุษย์และสัตว์ได้รับสารอาหารนี้จากต้นไม้ที่เป็นธัญพืช เพราะต้นไม้สามารถสังเคราะห์สารคาร์โบไฮเดรตขึ้นมาได้จากคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ น้ำ และแร่ธาตุในดิน โดยกระบวนการสังเคราะห์แสง มีแสงแดดเป็นพลังงาน ซึ่งมนุษย์และสัตว์ไม่สามารถสังเคราะห์แสงมาใช้เองได้
ต้นไม้ยังมีความสำคัญในการให้ปัจจัย 4 มนุษย์ใช้พืชเป็นอาหาร เมื่อเจ็บป่วยก็ได้พืชเป็นยารักษาโรค พรรณไม้หลายพันชนิดที่มนุษย์ใช้เป็นยารักษาโรคมาแต่โบราณ แม้ยาแผนปัจจุบันมากมายก็สังเคราะห์มาจากพืช เครื่องแต่งกายชุดแรกของมนุษย์ก็ใช้ใบไม้ มีดอกไม้เป็นเครื่องประดับ ต่อมาจึงรู้จักนำใยพืชมาปั่นทอตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนี้มนุษย์ยังใช้ไม้มาก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยอีกด้วย จะเห็นได้ว่าต้นไม้กับมนุษย์เกี่ยวข้องใกล้ชิดกันอย่างสำคัญในสังคมธรรมชาติ
ต้นไม้นอกจกให้ปัจจัยสำคัญต่อชีวิตดังกล่าวแล้ว ต้นไม้ยังให้คุณค่าทางใจ มนุษย์ต้องการความสุขสำราญเป็นอาหารใจต้นไม้ที่เป็นไม้ดอกไม้ประดับจัดเป็นมรดกทางธรรมชาติที่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจได้อย่างวิเศษ มนุษย์รู้จักหาความรื่นรมย์ด้วยการปลูกต้นไม้ ทำสวนดอกไม้ นำดอกไม้ใบไม้มาจัดประดับตกแต่ง ไม้ดอกไม้ประดับจึงให้คุณค่าแก่ชีวิตในอีกลักษณะหนึ่ง