การจัดการธาตุอาหารพืชที่เหมาะสมเพื่อการผลิตมันสำปะหลังในดินทรายชุดดินสัตหีบ
DOI:
https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2013.17คำสำคัญ:
มันสำปะหลัง, การจัดการธาตุอาหาร, ดินทราย, ชุดดินสัตหีบบทคัดย่อ
ในปัจจุบันปุ๋ยเคมีมีราคาแพง การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังจำเป็นต้องมีการจัดการธาตุอาหารพืชที่มีประสิทธิภาพและมีความเฉพาะเจาะจงสำหรับพื้นที่ จึงได้ศึกษาการตอบสนองของมันสำปะหลังต่อการจัดการธาตุอาหารที่เหมาะสมในพื้นที่ดินทราย เพื่อใช้ในการให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยกับมันสำปะหลัง ที่ปลูกในพื้นที่ดินทรายภาคตะวันออกอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทำการทดลองในดินทรายชุดดินสัตหีบ (Sh) (sand, isohyperthermic, coated typic quartzipsamments) อ.เมือง จ.ระยอง ฤดูฝนปี พ.ศ. 2555/2556 วางแผนการทดลองแบบ split plot ประกอบด้วย 3 ซ้ำและ 10 กรรมวิธีปัจจัยหลักคือ มันสำปะหลัง 3 พันธุ์ ได้แก่ 1) พันธุ์ระยอง 9 2) พันธุ์ระยอง 11 3) พันธุ์ CMR46-39-42 (ระยอง 84-12) ปัจจัยรองคือการใส่ปุ๋ย 10 กรรมวิธี ได้แก่ 1) 0-0-0, 2) 16-8-16. 3) 16-8-0, 4) 0-8-16, 5) 6-0-16, 6) 16-8-8, 7) 8-8-16, 8) 24-8-16, 9) 16-8-24 และ 10) 16-16-16 kg N-P2-O5-K2 O/ไร่ ผลการทดลองพบว่า การใช้พันธุ์และใช้ปุ๋ยเคมี ให้ผลผลิตหัวสดและผลผลิตแป้งของมันสำปะหลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ โดยมันสำปะหลังพันธุ์ CMR46-39-42 ให้ผลผลิตหัวสด และผลผลิตแป้งเฉลี่ยสูงสุด 6,255 และ 2,579 กก./ไร่ รองลงมาคือพันธุ์ระยอง 9 ให้ผลผลิตหัวสดและผลผลิตแป้งเฉลี่ย 5,332 และ 2,180 กก./ไร่ ขณะที่พันธุ์ระยอง 11 ให้ผลผลิตหัวสดและผลผลิตแป้งเฉลี่ยต่ำสุด 4,809 และ 1,918 กก./ไร่ การให้ปุ๋ยเคมี 24-8-16 กก N-P2-O5-K2 O/ไร่ มีผลต่อการเพิ่มผลผลิต และผลผลิตแป้งของมันสำปะหลังอย่างชัดเจน มันสำปะหลังทั้ง 3 พันธุ์ มีการดูดใช้ในโตรเจนและโพแทสเซียมแตกต่างหัน แต่ดูดใช้ฟอสฟอรัสไม่แตกต่างกัน โดยมันสำปะหลังมีการดูดใช้โพแทสเซียมเพื่อการสร้างผลผลิตสูงที่สุดรองลงมาคือการใช้ในโตรเจน และมีการดูดใช้ฟอสฟอรัสต่ำสุด การใช้ปุ๋ย 24-8-16 กก. N-P2-O5-K2 O/ไร่ ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด โดยมีกำไรสุทธิเฉลี่ยสูงสุด 12,454 บาท/ไร่
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารวิชาการเกษตร (Thai Agricultural Research Journal)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการเกษตร