การศึกษาคุณภาพเมล็ดชาน้ำมัน (Camellia oleifera) และน้ำมันเมล็ดชา
DOI:
https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2016.19คำสำคัญ:
เมล็ดชาน้ำมัน, คุณภาพน้ำมันเมล็ดชาบทคัดย่อ
ชาน้ำมัน สามารถนำเมล็ดมาสกัดน้ำมันที่มีคุณภาพดี สำหรับการบริโภคเพื่อสุขภาพโดยนำมาประกอบอาหาร และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยาฆ่าแมลงต่าง ๆประเทศไทยมีการปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์ Camellia oleifera จากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันเมล็ดชา แต่ข้อมูลคุณภาพเมล็ดชาน้ำมันและข้อมูลในการจัดทำมาตรฐานน้ำมันเมล็ดชาของประเทศไทย ยังไม่มีการกำหนด จึงได้ทำการศึกษาคุณภาพเมล็ดชาน้ำมันและน้ำมันเมล็ดชาที่ กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผล
เกษตร ปี พ.ศ. 2556 โดยนำเมล็ดชาน้ำมันจากแปลงทดลองของสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาจ.เชียงราย ที่มีสีดำ สีน้ำตาล และสีน้ำตาลปนเหลือง มาวิเคราะห์ปริมาณความชื้น น้ำมันโปรตีน และเส้นใย พบว่า เมล็ดสีดำมีปริมาณ น้ำมันมากที่สุด (22.77%) มีปริมาณความชื้นน้อยที่สุด (2.58%) ขณะที่เมล็ดสีน้ำตาลปนเหลืองมีปริมาณน้ำมันน้อยที่สุด (8.95%) และเมล็ดชาน้ำมันสดที่สกัดน้ำมันด้วยเฮกเซน พบว่าค่าของกรด และค่าเปอร์ออกไซด์ เท่ากับ 4.94mg KOH/g และ 0.97 meq/kg เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเมล็ดชาน้ำมันที่เก็บไว้ 1-2 วันและเมล็ดที่เสียมีเชื้อรา พบว่า ค่าของกรดจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.48 11.52 และ 18.80 เท่าตามลำดับ ขณะที่ค่าเปอร์ออกไซด์จะเพิ่มขึ้นเมื่อเก็บไว้ 1 วัน แต่จะลดลงเมื่อเก็บไว้ 2 วัน ส่วนคุณสมบัติทางเคมีฟิสิกส์ของน้ำมันเมล็ดชาพบว่า น้ำมันเมล็ดชาที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ2 ฤดูกาลผลิต และน้ำมันเมล็ดชาที่นำเข้าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันและไขมันสำหรับบริโภคของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและมาตรฐาน Codex สำหรับองค์ประกอบกรดไขมัน พบว่า น้ำมันเมล็ดชาทั้ง 2 แหล่งผลิตมีปริมาณกรดโอเลอิกมากที่สุด น้ำมันเมล็ดชาที่ผลิตในประเทศมีปริมาณอยู่ระหว่าง 69.21-
74.88% น้ำมันเมล็ดชานำเข้ามีปริมาณ 76.07%และมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่า 80%
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารวิชาการเกษตร (Thai Agricultural Research Journal)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการเกษตร