การเจริญเติบโตและการสังเคราะห์แสงของใบส้มโอพันธุ์ขาวทองดี

ผู้แต่ง

  • บุญชนะ วงศ์ชนะ สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160
  • มนตรี อิสรไกรศีล สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160
  • สมศักดิ์ มณีพงศ์ สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160

DOI:

https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2011.14

คำสำคัญ:

ส้มโอ, การสังเคราะห์แสง, การเจริญเติบโต

บทคัดย่อ

ศึกษาการเจริญเติบโตและอัตราการสังเคราะห์แสงของใบส้มโอพันธุ์ขาวทองดี (Citrus maxima) ในเรือนทดลองของศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551- ตุลาคม พ.ศ. 2552 เพื่อศึกษารูปแบบการเจริญเติบโต และอัตราการสังเคราะห์แสงสุทธิของใบ พบว่าการเจริญเติบโตของใบส้มโอสามารถแบ่งได้ 3 ช่วง ๆ แรกตั้งแต่พบตายอดถึง 2 วันหลังการผลิใบ ใบมีการเจริญเติบโตด้านความกว้างและยาวอย่างช้า ๆ ช่วงที่สองตั้งแต่ 2-22 วันหลังการผลิใบ ใบมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และช่วงที่สามตั้งแต่ 22- 28 วันหลังการผลิใบ การเจริญเติบโตของใบช้าลงจนกระทั่งสูงสุดเมื่อ 28 วันหลังการผลิใบ ความเข้มข้นของคลอโรฟิลล์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะแรก จนกระทั่งสูงสุดเมื่ออายุ 2 เดือนหลังการผลิใบ 45.09 micromol เริ่มลดลงเมื่อใบอายุ 5 เดือนหลังการผลิใบ ความเข้มข้นของธาตุไนโตรเจนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะแรก จนกระทั่งมากที่สุดเมื่ออายุ 4 เดือนหลังการผลิใบ (2.22 % ของน้ำหนักแห้ง) และเริ่มลดลงเมื่อในอายุ 6 เดือนหลังการผลิใบ อัตราการสังเคราะห์แสงสุทธิของใบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะแรก จนกระทั่งสูงสุดเมื่อใบอายุ 2 เดือนหลังการผลิใบที่ 12.8 micromol CO2/m2/s และเริ่มลดลงเมื่อใบอายุ 5 เดือนหลังการผลิใบ อัตราการสังเคราะห์แสงสุทธิของใบในรอบวันเพิ่มขึ้นในระยะแรกจนกระทั่งสูงสุดในช่วงเวลา 9.00-10.00 นาฬิกา (4.62 micromol CO2/m2/s) หลังจากนั้นอัตราการสังเคราะห์แสงสุทธิของใบเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2011-12-31

รูปแบบการอ้างอิง

วงศ์ชนะ บ., อิสรไกรศีล ม., & มณีพงศ์ ส. (2011). การเจริญเติบโตและการสังเคราะห์แสงของใบส้มโอพันธุ์ขาวทองดี. วารสารวิชาการเกษตร, 29(2), 119–130. https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2011.14

ฉบับ

ประเภทบทความ

งานวิจัย