งาขาวสายพันธุ์กลายไม่ไวต่อช่วงแสง
DOI:
https://doi.org/10.14456/thaidoa-agres.2009.14คำสำคัญ:
ไม่ไวต่อแสง, งาขาวสายพันธุ์กลาย, งาบทคัดย่อ
ปรับปรุงพันธุ์งาเพื่อให้ได้พันธุ์ที่ไม่ไวต่อช่วงแสง และมีกลิ่นหอมเมื่อคั่วสุก โดยการฉายรังสีแกมมางาขาวพันธุ์พื้นเมืองเลยที่ 400 Gy เมื่อปี พ.ศ. 2543 ปลูกเมล็ด M<sub>1</sub> ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี คัดเลือกต้นที่ออกดอกเร็วเมื่อ เปรียบเทียบกับงาขาวพื้นเมืองเลย ต้นฤดูฝนปีปลูก 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ผลการทดลองพบว่าพันธุ์สายพันธุ์กลายมีอายุดอกบาน 50% และอายุเก็บเกี่ยว 45-47 และ 130 วันหลังงอก (DAE) ตามลำดับ คัดเลือกได้ 44 ต้น (M<sub>3</sub>) ในขณะที่งาขาวพื้นเมืองเลยอายุดอกบาน 50% และอายุเก็บเกี่ยว 70 และ 152 วันหลังงอก ตามลำดับ ปี 2545 เลื่อนปลูกเป็น 21 มีนาคม พบว่าสายพันธุ์กลายมีอายุดอกบาน 50% และอายุเก็บเกี่ยว 45-55 และ 102-124 วันหลังงอก คัดได้ 65 ต้น (M<sub>4</sub>) แต่งาขาวพื้นเมืองเลยไม่มีต้นที่ออกดอก ปลายฝนปลูกศึกษาลักษณะทางการเกษตร พบว่าสายพันธุ์กลายมีผลผลิตมากกว่า และขนาดเมล็ดใหญ่กว่าพันธุ์พื้นเมืองเลย และทดสอบรสชาติและกลิ่นหอมของเมล็ดงาคั่วจากการชิม คัดเลือกได้ 20 ต้น (M<sub>5</sub>) ต่อมาปี พ.ศ. 2546-2547 ประเมินการให้ผลผลิตของสายพันธุ์กลาย เปรียบเทียบกับงาขาวพันธุ์อุบลราชธานี 2 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ช่วงต้นและปลายฤดูฝน ผลการทดลองต้นฤดูฝนปี พ.ศ. 2546 และ 2547 สายพันธุ์กลายมีอายุดอกบาน 50% และอายุเก็บเกี่ยวเท่ากับ 54-60 และ 120 วันหลังงอก ตามลำดับ ส่วนพันธุ์อุบลราชธานี 2 ดอกบาน 50% และอายุเกี่ยวเกี่ยว 35 และ 90 วันหลังงอก ตามลำดับ ส่วนการให้ผลผลิต ของสายพันธุ์กลายเท่ากับ 54-86 กก./ไร่ และน้ำหนัก 1,000 เมล็ด 1.75-2.01 ก. และพันธุ์อุบลราชธานี 2 ให้ผลผลิต 90 และ 108 กก./ไร่ น้ำหนัก 1, 000 เมล็ด 3.34 และ 3.30 กรัม ส่วนปลายฤดูฝน ปีพ.ศ. 2546 และ 2547 อายุดอกบาน 50% และอายุเก็บเกี่ยวเท่ากันทุกพันธุ์คือ 32-35 และ 87-90 วันหลังงอก ตามลำดับผลผลิตของสายพันธุ์กลายต่ำกว่า 36-93 กก/ไร่ และ 1,000 เมล็ดหนัก 1.61-2.03 ก. ส่วนพันธุ์อุบลราชธานี 2 ผลผลิต 78 และ 118 กก./ไร่ น้ำหนัก 3.07 และ 3.42 ก./1,000 เมล็ด ดังนั้นจึงคัดเลือกได้งาสายพันธุ์กลาย 3 สายพันธุ์ซึ่งไม่ไวต่อช่วงแสงได้แก่ Lm 3-2-1-1 Lm 14-1-1-3 และ Lm 14-1-1-1 ซึ่งให้ผลผลิตสูงกว่าสายพันธุ์กลายอื่น ๆ และรสชาติดี มีกลิ่นหอมเมื่อคั่วสุก เพื่อปรับปรุงพันธุ์ต่อไป นอกจากนั้นเมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของเมล็ด สายพันธุ์กลายมีแนวโน้มปริมาณน้ำมันและโปรตีนสูงกว่างาขาวพื้นเมืองเลย โดยมีปริมาณน้ำมัน 34.6 – 43.9% ปริมาณโปรตีน 25.2 – 25.8% ส่วนงาขาวพื้นเมืองเลย มีน้ำมันโปรตีน 33.4 และ 24.6% ตามลำดับและงาขาวพันธุ์อุบลราชธานี 2 มีปริมาณน้ำมันและโปรตีนเท่ากับ 37.6 และ 25.5% ตามลำดับ
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารวิชาการเกษตร (Thai Agricultural Research Journal)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการเกษตร