การเปรียบเทียบรูปร่าง ขนาดและปริมาณอนุภาคของเขม่าปืนภายหลังจากการยิงด้วยกระสุน แบลงค์กันและกระสุนปืนจริงด้วยเทคนิค SEM-EDX
คำสำคัญ:
เขม่าปืน, กระสุนปืนจริง, กระสุนแบลงค์กันบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบอนุภาคเขม่าปืนหลังการยิงด้วยกระสุนแบลงค์กันและกระสุนปืนจริงด้วยเทคนิคกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) และ 2) เปรียบเทียบปริมาณเขม่าปืนหลังการยิงด้วยกระสุนแบลงค์กันและกระสุนปืนจริงด้วยเทคนิคเอกซเรย์แบบกระจายพลังงาน (EDX) ยิงโดยใช้อาวุธปืนพกสั้นและปืนแบลงค์กันขนาด 9 มม. เก็บตัวอย่างเขม่าปืนบนมือของผู้ยิงที่เวลา 0 นาทีและ 30 นาที วิเคราะห์อนุภาค ขนาดเขม่าปืน และตรวจหาปริมาณธาตุตะกั่ว (Pb) แบเรียม (Ba) และพลวง (Sb)
ผลการวิจัย พบว่าอนุภาคเขม่าปืนจากปืนจริงมีลักษะทรงกลมมากกว่าอนุภาคเขม่าปืนจากปืนแบลงค์กันและเมื่อเวลาผ่านไปลักษณะของเขม่าปืนจะเปลี่ยนแปลงไปจากทรงกลม ขนาดอนุภาคเขม่าปืนอยู่ในช่วง 1 – 30 ไมครอน และจากการศึกปริมาณธาตุองค์ประกอบในเขม่าปืน พบว่าปริมาณธาตุตะกั่ว (Pb) แบเรียม (Ba) และพลวง (Sb) จากกระสุนปืนจริงและปืนแบลงค์กัน ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากผลการวิจัยครั้งนี้สรุปได้ว่า เทคนิค SEM-EDX สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการตรวจวิเคราะห์รูปร่างของเขม่าปืนทั้งปืนจริงและปืนแบลงค์กัน เพื่อประโยชน์ในการจำแนกประเภทของปืนได้แต่ยังไม่สามารถนำข้อมูลปริมาณธาตุองค์ประกอบที่พบในเขม่าปืนมาประยุกต์จำแนกประเภทของปืนได้
เอกสารอ้างอิง
Chinaworn, W. (2004). Gunshot residue analysis by SEM/EDX. (Master dissertation). Silpakorn University, Nakhon Pathom
Demirci, S., Hakan, H. K., & Koc, S. (2011). Fatal injury by an unmodified blank pistol : A case report and review of the literature. Journal of forensic and legal medicine, 18, 237-241.
Jithkaroon, C., & Vichuwanich, W. (2021). Trend of Gunshot Residue Examination in Thailand. Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, 20(1), 9-20. (In Thai)
Kara.I., (2022). The Relationship Between Gunshot-Residue Particle Size and Boltzmann Distribution. Forensic Sciences Research, 7(2), 47-52.
Lewinski, W. J., Hudson, W. B., Karwoski, D., & Redmann, C. J. (2010). Fired Cartridge Case Ejection Patterns from Semi-Automatic Firearms. Investigative sciences journal, 2(3), 1-32.
Mingchanid, P., & Kulnides, N. (2017). Study on Persistence of Gunshot Residue After Shooting From 9 mm Pistol on Back of Hands and Palms with Different Persistent Duration and Bullet Types. KKU Research Journal, 17(3), 8-18.
Ratchakhom, P.(2020).Comparison of the Physical Characteristics and Gunshot Residue in Fabrics after Firing with SEM/EDX Technique (Master dissertation). Royal Police Cadet Academy, Nakhon Pathom.
Thailand Institute of Occupational Safety and Health. (n.d.). Ancient firework The miracle of Thai wisdom. Retrieved from https://www.aimconsultant.com/th/infomation/gQSt2.pdf [2024, 22 Mar.]
Silvia, F., Profumo, A., Alberini, G., Bonomi, S., Milanese, C., Donghi, M., Amadasi, A., Patrini, M., Cucca, L., & Merli, D. (2020). Interaction of gunshot residues (GSR) with natural and synthetic textiles having different structural features. Talanta Open, 62(2), 122-138.
Spathis, V., (2017). Impact-disrupted gunshot residue: A sub-micron analysis using a novel collection protocol. Defence Technology, 13(3), 143-149.
Vongsakul, T., & Sukawat, S. (2014).The study of comparison between distribution and properties of gunshot residue by shooting the revolvers size .38 with difference of caliber. E-Journal Science and Technology Silpakorn University, 1(2), 12-23. (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
โปรดกรอกเอกสารและลงนาม "หนังสือรับรองให้ตีพิมพ์บทความในวารสารวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ก่อนการตีพิมพ์
