การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังด้วยแนวคิดเทคโนโลยีสะอาด กรณีศึกษาบริษัท จ.เจริญมาร์เก็ตติ้ง จำกัด

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังด้วยแนวคิดเทคโนโลยีสะอาด กรณีศึกษาบริษัท จ.เจริญมาร์เก็ตติ้ง จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลัง การดำเนินงานวิจัยเริ่มจาก 1) ศึกษาสภาพทั่วไปของกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลัง 2) การประเมินเบื้องต้น 3) การประเมินละเอียด 4) การศึกษาความเป็นไปได้ 5) การลงมือปฏิบัติ ผลการดำเนินงานพบว่า เครื่องสับโม่รุ่นใหม่ปริมาณสูญเสียแป้งในกากเฉลี่ย 483.30 ตันต่อเดือน การเปลี่ยนใบเลื่อยจาก 5 เป็น 8 ครั้งต่อเดือน ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 75.44 เป็นร้อยละ 82.80 คิดเป็นมูลค่า 965,050 บาทต่อเดือน เครื่องสับโม่รุ่นปัจจุบันปริมาณสูญเสียแป้งในกากเฉลี่ย 222.05 ตันต่อเดือน การเปลี่ยนใบเลื่อยจาก 3 เป็น 4 ครั้งต่อเดือน ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51.04 เป็นร้อยละ 55.11 คิดเป็นมูลค่า 196,575 บาทต่อเดือน การเปรียบเทียบด้วยหลักเศรษฐศาสตร์วิศวกรรม ราคาเครื่องจักร ราคามันสำปะหลัง ราคาใบเลื่อย ค่าแรงงานพนักงาน ค่าไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษา มูลค่าซาก ผลตอบแทน อายุการใช้งาน เครื่องสับโม่รุ่นใหม่มีความคุ้มทุนมากกว่าเครื่องสับโม่รุ่นปัจจุบัน มูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 2,385,932.38 บาท อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนเท่ากับ 1.00 อัตราผลตอบแทนของโครงการเท่ากับร้อยละ 21.29 ระยะเวลาในการคืนทุน 1.14 ปี ผลการลดความสูญเปล่าในกระบวนบรรจุแป้งมันสำปะหลัง โดยการจัดเรียงและปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตใหม่สามารถลดกระบวนการจาก 13 เป็น 12 ขั้นตอน คิดเป็นร้อยละ 7.69 การปรับเปลี่ยนตำแหน่ง เครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงการออกแบบสายพานลำเลียงถุงแป้งลดระยะทางขนส่งจาก 14.98 เมตร เป็น 7.68 เมตร คิดเป็นร้อยละ 48.73 เวลามาตรฐานลดลงจาก 121.13 วินาที เป็น 90.00 วินาที คิดเป็นร้อยละ 25.69 ลดจำนวนพนักงานจาก 12 คนเป็น 9 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00