ผลของปุ๋ยคอกที่มีต่อผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพดหวานลูกผสม ในชุดดินที่ 41
Main Article Content
บทคัดย่อ
การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดหวานพันธุ์ทดสอบที่ 1, พันธุ์ทดสอบที่ 2 และ พันธุ์ทดสอบที่ 3 เก็บข้อมูลในช่วงอายุ 20 และ 65 วัน หลังปลูก โดยวางแผนการทดลองแบบ split-plot in RCBD ทำการทดลองกับข้าวโพดหวานลูกผสมทางการค้า (F-1 hybrit) 3 สายพันธุ์ มี 4 สิ่งทดลอง ประกอบด้วย (T1) ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด (control) (T2) ปุ๋ยมูลไก่ (T3) ปุ๋ยมูลสุกร และ (T4) ปุ๋ยมูลโค โดยใส่อัตรา 50 กรัมต่อต้น ประเมินการเจริญเติบโตในด้านความสูงต้น ความยาวใบ น้ำหนักฝักสด เส้นรอบวงฝัก ความยาวฝัก และความหวานฝัก ผลการทดลองพบว่าพันธุ์ทดสอบที่ 1 มีการเจริญเติบโตสูงสุดในด้านความสูงต้นและน้ำหนักฝักสดต่อต้นมากที่สุดในช่วงอายุ 65 วัน คือ 174.44 เซนติเมตร และ 358.33 กรัมต่อต้น ขณะที่พันธุ์ทดสอบที่ 3 มีความยาวใบที่ยาวที่สุดในช่วงอายุ 20 และ 65 วัน คือ 16.38 และ 78.44 เซนติเมตรตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้ปุ๋ยอัตราการใช้ 50 กรัมต่อต้น มีผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิต โดยปุ๋ยมูลสุกรมีผลดีต่อการเจริญเติบโต และน้ำหนักฝักสดของทั้งสามพันธุ์ทดสอบ สำหรับความหวานปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดมีผลสูงสุดในพันธุ์ทดสอบที่ 1
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Vocational Education in Agriculture ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Journal of Vocational Education in Agriculture ถือเป็นลิขสิทธิ์ของJournal of Vocational Education in Agriculture หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Vocational Education in Agriculture ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
Paenkaew, W., et al. (2020). The Effects of Organic Fertilizer from Paper Industry Waste on the Growth, Yield, and Quality of Animal Feed Corn. Journal of Science and Technology, Kasetsart University, 9(1), 8-19. (in Thai)
Department of Land Development. (2008). Management of Organic Materials to Improve Soil and Enhance Soil Fertility. Bangkok: Ministry of Agriculture and Cooperatives. (in Thai)
Department of Land Development. (2016). Organic Fertilizers and their Utilization in Thailand. Bangkok: Ministry of Agriculture and Cooperatives. (in Thai)
Department of Agriculture. (2005). Guidelines for Fertilizer Use with Economic Crops. Technical Document No. 8/2005. Bangkok: Ministry of Agriculture and Cooperatives. (in Thai)
Department of Agriculture. (2012). Announcement of the Department of Agriculture Regarding Registration Requests, Issuance of Registration Certificates, Amendments to Registration Listings, and Modifications to Organic Fertilizer Registration for the Year 2012. (in Thai)
Department of Land Development. (2016). Soil management information. Bangkok: Ministry of Agriculture and Cooperatives. (in Thai)
Office of Soil Survey and Land Use Planning, Department of Land Development. (2016). Characteristics and Properties of Soil Series in the Northeastern Region of Thailand. Bangkok: Ministry of Agriculture and Cooperatives. (in Thai)
Kumar, A., et al. (2019). Recent Advances of PGPR Based Approaches for Stress Tolerance in Plants for Sustainable Agriculture. Biocatalysis and Agricultural Biotechnology, 20, 101271
Shaikh, S. S., et al. (2018). Impact of Interactions between Rhizosphere and Rhizobacteria: A review. Journal of Bacteriology and Mycology, 5(1), 1058.
