การตรวจเอกลักษณ์ทางเภสัชเวทและฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของสมุนไพรว่านนางคำ
คำสำคัญ:
ว่านนางคำ, เภสัชเวท, ทินเลเยอร์โครมาโทกราฟี, แก๊สโครมาโทกราฟฟี, ว่านนางคำ เภสัชเวท ทินเลเยอร์โครมาโทกราฟี แก๊สโครมาโทกราฟฟี ดีพีพีเอชบทคัดย่อ
ว่านนางคำ (Curcuma aromatica Salisb.) จัดอยู่ในวงศ์ขิง (Zingiberaceae) เป็นสมุนไพรไทยที่ใช้ในแพทย์แผนไทยเป็นเวลานานการศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อการตรวจเอกลักษณ์ทางเภสัชเวทและฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของสมุนไพรว่านนางคำ แหล่งที่มาจากกรมวิชาการเกษตรและการประเมินลักษณะทางมหทรรศน์และจุลทรรศน์ของเครื่องยาสมุนไพร ดูลักษณะภายนอกและลักษณะผงยาสมุนไพรว่านนางคำและมีการวิเคราะห์เบื้องต้นด้วยเทคนิคทินเลเยอร์โครมาโทกราฟีโดยใช้แผ่นซิลิกาเจล 60 GF254 เป็นวัฏภาคคงที่ โดยใช้ตัวทำละลายโครโรฟอร์มต่อเมทานอล (9:1) รวมทั้งแก๊สโครมาโทกราฟฟี การสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยใช้วิธีการกลั่นด้วยไอน้ำและวิเคราะห์ด้วยแก๊สโครมาโตกราฟี การระบุองค์ประกอบทางเคมีที่ระเหยง่ายได้ดำเนินการโดยการวิเคราะห์แก๊สโครมาโตกราฟีแมสสเปกโตรเมทรี พบว่า มีน้ำมันหอมระเหยที่พบมากที่สุดคือ β-Curcumene ใน retention time ที่ 31.25 คิดเป็นร้อยละ 49.83 ของพื้นที่ รองลงมา ได้แก่ α-Curcumene retention time ที่ 29.97 คิดเป็นร้อยละ 30.48 ตามลำดับ ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม Curcuminoids และมีการศึกษาการต้านฤทธิ์ออกซิเดชั่นด้วยวิธีการต้านอนุมูลอิสระดีพีพีเอช พบว่า สารสกัดว่านนางคำมีฤทธิ์ที่ดี IC50 = 0.207 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และสารควบคุมกลุ่มเชิงบวกแอสคอร์บิค แอซิด พบว่ามีฤทธิ์ที่ดี IC50 = 0.195 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร สารบีเอชที พบว่ามีฤทธิ์ที่ดี IC50 = 8.460 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรและสารเควซิทิน พบว่ามีฤทธิ์ที่ดี IC50 = 3.137 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
Brand-Williams, W., Cuvelier,M.E., & Berset, C. (1995). Use of free radical method to
evaluate antioxidant activity. Lebensmittel Wissenschaft and Technologie, 28(1):25-30.
Charoenphon W., & Jirakornwong T. (2007). Preliminary study on specification of Curcuma
aromatica Salisb.: microscopic and physical characters. (Bachelor degree). Mahidol
University, Bangkok.
Department of Agriculture, (2019). Supported to plant 18 types of medicinal plants according
to GAP standards. Retrieved from https://www.kaset1009.com/th/articles/163486
, 20 Dec.]
Kukongviriyapan V., (2015). Essential Role of Antioxidant network of Vitamins and Enzymes.
Srinagarind Medical Journal, Faculty of Medicine, Khon Kaen University, 29, 16-18.
(In Thai)
Panicha, U. (2009). The effects of Alpinia galanga and Curcuma aromatica extracts containing
antioxidant phenolics on cellular melanogenesis induced by UV radiation. The Thailand
Research Fund, Bangkok
Rizwana S., Ajmal K., Sadia N., Sara K., Afsar K., Abdur R., Haji B., & Reaz U. (2015). Evaluation of
Antioxidant, Free Radical Scavenging, and Antimicrobial Activity of Quercus incana Roxb.
Front Pharmacol, 23(6), 277-283.
Shamim A., Shahid H., & Ansaria, F. (2011). Phytoconstituents from the rhizomes of Curcuma
aromatica Salisb. Journal of Saudi Chemical Society15(3), 287-290.
Sharif M., Atiqur R., Sattar M., Oliur M., & Hasan M. (2010). Essential oil composition and antioxidant
activities of Curcuma aromatica Salisb. Food and Chemical Toxicology, 48(6), 1757-
Thummatuchsana B. (1980, 18 Dec.) Aloe Vera for treatment. Moh Chao Ban, 20(3), 41-42.
(In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
โปรดกรอกเอกสารและลงนาม "หนังสือรับรองให้ตีพิมพ์บทความในวารสารวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ก่อนการตีพิมพ์
