การตรวจสอบและการพยากรณ์ผลกระทบจากโครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งทะเลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งบริเวณปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาโดยใช้เทคนิคเชิงพื้นที่

ผู้แต่ง

  • Aekkarak Faiboon ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วข.ปัตตานี
  • Wutthipong Sangmanee

คำสำคัญ:

Geo-Informatics, Coastal Engineering Structure, Shoreline Change, Songkhla Lake, DSAS Model

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและพยากรณ์ผลกระทบจากโครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งทะเลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งบริเวณปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา ท่าเรือน้ำลึกสงขลาก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2531 คลื่นที่เกิดขึ้นมีบทบาทสำคัญในการนำตะกอนเลียบชายฝั่งขึ้นมาทางทิศเหนือท่าเรือซึ่งประกอบด้วยเขื่อนกันคลื่นยาวประมาณ 1,800 เมตรการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและพยากรณ์ผลกระทบจากโครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งทะเลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งบริเวณปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา ท่าเรือน้ำลึกสงขลาก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2531 คลื่นที่เกิดขึ้นมีบทบาทสำคัญในการนำตะกอนเลียบชายฝั่งขึ้นมาทางทิศเหนือท่าเรือซึ่งประกอบด้วยเขื่อนกันคลื่นยาวประมาณ 1,800 เมตรไปขัดขวางการเคลื่อนที่ของตะกอน และเกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงทางทิศเหนือยาวประมาณ 1,660เมตร ข้อมูล 11 ชุด  ระหว่างช่วงคาบ 48 ปี (พ.ศ. 2510 – 2558) จากข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูง แปลลากเส้นแนวชายฝั่งด้วยสายตาในโปรแกรม Arcview GIS 3.3และ การเดินสำรวจด้วยเครื่องมือGPS ใช้โปรแกรม Digital ShorelineAnalysis System (DSAS) วิเคราะห์หาอัตราการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งด้วยการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงเส้น (Linear Regression Rate, LRR) อัตราที่จุดเชื่อมต่อกัน (End Point Rate, EPR) ช่วงก่อน และหลังการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งในอนาคต อีก 10 ปี และ 20  ปี ข้างหน้า ผลการวิจัยพบว่า ช่วงก่อนก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก บริเวณพื้นที่หาดจันทร์สว่าง หาดทรายแก้ว และหาดสมิหลา อัตราการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งมีการสะสมตัว เนื่องมาจากในช่วงเวลาดังกล่าวระบบชายฝั่งเป็นหาดธรรมชาติ ไม่มีโครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งแบบแข็งกีดขวางการการเคลื่อนที่ของตะกอนทรายชายฝั่ง  แต่หลังจากการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ชายฝั่งเกิดการกัดเซาะในระดับรุนแรง มากกว่า 5 เมตรต่อปี บริเวณพื้นที่หาดจันทร์สว่าง และหาดทรายแก้ว ในทางกลับกันมีการสะสมตัว บริเวณพื้นที่หาดสมิหลา มีสาเหตุมาจากตัวโครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งขีดขวางการเคลื่อนที่ของตะกอน และเกิดการเลี้ยวเบนของคลื่น ในขณะที่ทางทิศเหนือเกิดการขาดแคลนตะกอนชายฝั่ง เพราะว่ามีตะกอนชายฝั่งจำนวนมากติดค้างอยู่ที่ทางด้านใต้ของตัวเขื่อนกันทรายปากร่องน้ำ ส่วนการพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งทะเลอีก 10 และ 20 ปีข้างหน้า เกิดการกัดเซาะบริเวณจันทร์สว่าง และหาดทรายแก้ว ลึกเข้ามาในแผ่นดินเป็นระยะทางประมาณ 109 และ 263 เมตรตามลำดับ ในทางตรงกันข้ามหาดสมิหลา มีการสะสมตัวออกไปจากแนวชายฝั่งปัจจุบันประมาณ 157 และ 170 เมตร ตามลำดับ โครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งเป็นตัวกีดขวางระบบของธรรมชาติ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม เช่น การถ่ายเททราย หรือการเติมทรายเสริมหาด การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกควรอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมมีการจัดการพื้นที่ชายฝั่งแบบบูรณาการเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

Additional Files

เผยแพร่แล้ว

2019-01-17

How to Cite

Faiboon, A., & Sangmanee, W. (2019). การตรวจสอบและการพยากรณ์ผลกระทบจากโครงสร้างวิศวกรรมชายฝั่งทะเลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งบริเวณปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาโดยใช้เทคนิคเชิงพื้นที่. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 11(3), 165–179. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/pnujr/article/view/160033