ความหลากหลายของอาหารผสมที่มีต่อผลผลิตเขากวางอ่อน

Main Article Content

มณี อัชวรานนท์
พรชัย วงศ์วาสนา
จิตรภานุ อินทวงศ์
จิระวุฒ นาเค
ธงชัย ช่วยสถิตย์
แพรพิไล เจริญสิทธิ์กองคำ
วีระศักดิ์ มะประสิทธิ์

บทคัดย่อ

เขากวางอ่อนเป็นผลผลิตหลักที่ได้จากการทำธุรกิจฟาร์มกวาง ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกปี การงอกของเขากวางเกิดขึ้นปีละครั้ง เขากวางงอกใหม่มีลักษณะอ่อนนุ่ม หุ้มด้วยกำมะหยี่ หลังจากนั้นประมาณ 150 วัน เขากวางเริ่มแข็งแล้วหลุดจากตัวกวาง หลังจากเขาแข็งหลุดประมาณ 15 วัน เขากวางอ่อนค่อยๆงอกออกมาใหม่ เป็นวัฏจักรหมุนเวียนแบบนี้ทุกปี สรรพคุณของเขากวางอ่อนในการทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์
ทั้งตะวันออกโดยเฉพาะประเทศจีนและตะวันตกมานาน เขากวางอ่อนที่มีคุณภาพ ราคาสูง คือเขากวางอ่อนที่มีน้ำหนักมาก เส้นรอบวงมีขนาดใหญ่ และสวยงามเพราะมีความสมดุลย์ของลักษณะเขาทั้งสองข้างเท่ากัน
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เพื่อทดสอบชนิดของอาหารผสมที่มีผลต่อคุณภาพของเขากวางอ่อน พบว่า อาหารผสมที่มีความหลากชนิดโดยเฉพาะที่มีข้าวโพดเป็นส่วนผสม เมื่อให้กวางรูซ่าและกวางซิก้ากินเป็นระยะเวลา 1 ปี และ
ตัดเขากวางอ่อนในปีรุ่งขึ้น เขากวางอ่อนของกวางที่กินอาหารผสมหลากชนิดมากกว่าและมีข้าวโพดเป็นส่วนผสม มีลักษณะรูปร่างของเขาขนาดใหญ่กว่า และมีคุณค่าโภชนาการในเขากวางอ่อนสูงกว่าเขากวางอ่อน
ของกวางที่กินอาหารผสมหลากชนิดน้อยกว่าและไม่มีข้าวโพดเป็นส่วนผสม สรุปได้ว่า ชนิดของอาหารและส่วนผสมของอาหารที่ใช้เลี้ยงกวางเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เขากวางมีคุณภาพสูง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อัชวรานนท์ ม., วงศ์วาสนา พ., อินทวงศ์ จ., นาเค จ., ช่วยสถิตย์ ธ., เจริญสิทธิ์กองคำ แ., & มะประสิทธิ์ ว. (2019). ความหลากหลายของอาหารผสมที่มีต่อผลผลิตเขากวางอ่อน. วารสารวิจัยรามคำแหง ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 22(2), 1–12. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/rusci/article/view/232454
ประเภทบทความ
Articles
ประวัติผู้แต่ง

มณี อัชวรานนท์, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

รองศาสตรจารย์ ดร. ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

พรชัย วงศ์วาสนา, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา  มหาวิทยาลัยรามคำแหง

จิตรภานุ อินทวงศ์, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปปฎิบัติการ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

จิระวุฒ นาเค, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เจ้าหน้าที่วิจัยปฎิบัติการ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ธงชัย ช่วยสถิตย์, สถาบันวิจัยสัตว์ในภูมิภาคเขตร้อน มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เจ้าหน้าที่วิจัยปฏิบัติการ สถาบันวิจัยสัตว์ในภูมิภาคเขตร้อน มหาวิทยาลัยรามคำแหง

แพรพิไล เจริญสิทธิ์กองคำ, สถาบันวิจัยสัตว์ในภูมิภาคเขตร้อน มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เจ้าหน้าที่วิจัยปฏิบัติการ สถาบันวิจัยสัตว์ในภูมิภาคเขตร้อน มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วีระศักดิ์ มะประสิทธิ์, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เจ้าหน้าที่วิจัยปฎิบัติการ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เอกสารอ้างอิง

พรชัย วงศ์วาสนา. 2547. โครงการจัดทำฟาร์มกวาง สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง. กรุงเทพมหานคร. สำนักพิมพ์รามคำแหง.28 หน้า.
พรชัย วงศ์วาสนา. 2548. ฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. มหาวิทยาลัยรามคำแหง 34 ปี. หน้า 56-60.
พรชัย วงศ์วาสนา. 2552. ผลของภูมิอากาศที่มีต่อการเลี้ยงกวางในประเทศไทย. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 12(1): 67-75.
มณี อัชวรานนท์. 2551. งานวิจัยจากฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. จดหมายข่าวสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง. 2(6): 1- 6.June2551.
มณี อัชวรานนท์. 2554ก. สัณฐานวิทยาของเขากวางอ่อนของกวางที่เลี้ยงในฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 14(1): 40-70.
มณี อัชวรานนท์. 2554ข. ความสัมพันธ์ระหว่างวงรอบการเจริญของเขากวางกับการสืบพันธุ์. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 14(2): 1-16.
มณี อัชวรานนท์. 2555ก. การสืบพันธุ์ของกวางที่เลี้ยงในฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 15(1): 1-17.
มณี อัชวรานนท์. 2555ข. การปรับปรุงพันธุ์กวางเศรษฐกิจในประเทศไทย. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 15(2): 1-25.
มณี อัชวรานนท์ และพรชัย วงศ์วาสนา 2559ก. การพัฒนาฟาร์มกวางต้นแบบในประเทศไทย. รายงานการวิจัยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. 79 หน้า.
มณี อัชวรานนท์ และพรชัย วงศ์วาสนา 2559ข. ผลกระทบของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงต่อผลผลิตของ ฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง.วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี).19(2): 1-15.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา ธิดารัตน์ เอกสิทธิกุล และสัญญา กุดั่น. 2555ก. ประสิทธิภาพของเขากวางอ่อนต่อสรีรวิทยาการสืบพันธุ์ของหนูหนุ่มและหนูพ่อพันธุ์ที่ปลดระวาง.วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี).15(2): 81-119.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา ธิดารัตน์ เอกสิทธิกุล และสัญญา กุดั่น. 2555ข. ผลเฉียบพลันและเรื้อรังของการกินเขากวางอ่อนในปริมาณสูงและในระยะยาวในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม.วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 15 (ฉบับพิเศษ): 1- 36.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา และจิตรภาณุ อินทวงศ์. 2556ก. ความน่ากินของอาหารผสมสำเร็จของฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 16(1): 1-12.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา และวิสาล อธิพรธรรม. 2556ข. ผลของการบริหารจัดการน้ำต่อผลผลิตหญ้าอาหารสัตว์ที่ฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 16 (1): 48-58.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา วิสาล อธิพรธรรม และจิตรภาณุ อินทวงศ์. 2557ก. การวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 17 (1): 38-49.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา วิสาล อธิพรธรรม และจิตรภาณุ อินทวงศ์. 2557ข. ประสิทธิภาพของมูลกวางต่อการปลูกหญ้าที่ฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง.วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 17(2): 1-13.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา ยิ่งยง เมฆลอย จิตรภาณุ อินทวงศ์ ธงชัย ช่วยสถิตย์ จิระวุฒ นาเค. 2561ก. การผันแปรของวงรอบการเจริญของเขากวางและพฤติกรรมการสืบพันธุ์ของกวางที่เลี้ยงที่ฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 21(1): 1-12.
มณี อัชวรานนท์ พรชัย วงศ์วาสนา จิตรภาณุ อินทวงศ์ ธงชัย ช่วยสถิตย์ จิระวุฒ นาเค. 2561ข. การบริหารจัดการฟาร์มกวางมหาวิทยาลัยรามคำแหงและการรอดชีวิตของลูกกวาง. วารสารวิจัยรามคำแหง
(วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 21(2): 1-19.
รังสรรค์ แสงสุข มณี อัชวรานนท์ ธิดารัตน์ เอกสิทธิกุล พรชัย วงศ์วาสนา และสัญญา กุดั่น. 2555. คุณค่าทางโภชนาการของเขากวางอ่อน. วารสารวิจัยรามคำแหง (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 15(1): 96-108.
Chen, J., Yang, Y., Abbasi, S., Halinezhad, D., Kontulainen, S. and Honaramooz, A. 2015. The effects of Elk velvet antler dietary supplementation on physical growth and bone development in growing rats. Evid. Based Complement. Alternat. Med. 2015; 2015:819520 Doi 10.1155/2015/819520.
Demarias, S. 2002. Managing for antler production: Understanding age, nutrition, and genetic influences. Res. Adv. Forest and Wildlife Research Center. 7(1): 1-4.
French, C.E., McEwen, L.C., Magruder, N.D., Ingram, R.H. and Swift, R.W. 1956. Nutrient requirements for growth and antler development in the White-Tailed Deer. J. Wildl. Manag. 20(3): 221-232.
Goddard, P. 2014. Deer Handling and Transport. InGrandin, T. (ed.) Livestock Handling and Transport.4th edition. CABI, UK, pp. 342-377.
Grovenburg, T.W., Jenks, J.A., Jacques,C, N., Klaver, R.W. and Swanson, C.C. 2009. Aggressive defensive behavoiur by free ranging white-tailed deer. J. Mammal. 90: 1218-1223.
Hauer, G. and Heibig, L. 2005. Bison Handling Facilities. Alberta Agriculture, Food and Rural Development, Edmonton, Canada.
Kuo, C-Y; Cheng, Y-T., Ho, S-T., Yu, C-C. and Chen, M-J. 2018. Comparison of anti-inflammatory effect and protein profile between the water extracts from Formosan sambar deer and red deer. J. Food Drug Anal. 26(4): 1275-1282.
Omsjoe, E. H., Stien, A., Invine, J., Abon, S.D., Dahl, E., Thoresen, S.I., Rustad, E. and Ropstad, E. 2009.Evaluating capture stress and its effects on reproductive success in Svalbard reindeer. Can. J. Zool. 87:73-85.
Tang, Y., Fan, M., Choi, Y., Choi, E. Moon, S., Debnath, T., Yu, Y., Lee. I. and Kim, E. 2018. Protective effect of sika deer (Cervus nippon) velvet antler extract against cisplatin-induced kidney and liver injury in a prostate cancer PC-3 Cell Xenograft Model. J. Chem. http://doi.org/ 10.1155/2018/6705156.
Warren, R. J. 2011. Deer overabundance in the U.S.A.: recent advances in population control. Anim. Prod. Sci. 51:259-266.
Zhang, L., Wang, J., Li, T., Li, P-Y., Wang, Y-H., Yang, M., Liu, J-P and Liu, J-H. 2019. Determination of the chemical components and phospholipids of velvet antler using UPLC/QTOF-MS coupled with UNIFI software. Exp. Ther. Med. http://doi.org/10.3892/etm2019.7372. pp. 3789-3799.