ผลกระทบของการเผาไร่หมุนเวียนบนพื้นที่สูงต่อการเก็บกักและ ปลดปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสะสม การสูญเสียจากการเผาและแนวโน้มการฟื้นกลับของคาร์บอนในไร่หมุนเวียนรอบยาว (5 ปี) ไร่หมุนเวียนรอบสั้น (2 ปี) และพื้นที่ไร่ร้างที่ไม่มีการทำการเกษตรแล้ว (พื้นที่ฟื้นฟูระบบนิเวศ) บริเวณพื้นที่ผ่อนปรน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน โดยวางแปลงศึกษาพื้นที่ละ 3 แปลง ก่อนการถางพื้นที่เพื่อทำการเกษตรได้สำรวจปริมาณเชื้อเพลิงและตรวจวัดปริมาณคาร์บอนที่สะสมอยู่ในเชื้อเพลิงและตรวจวัดคาร์บอนที่อยู่ใต้ดินที่ระดับความลึก 30 เซนติเมตร ภายหลังการเผาเก็บสิ่งที่หลงเหลือ (เถ้า ถ่าน และส่วนที่ไม่ไหม้ไฟ) และเก็บตัวอย่างดินทันที คำนวณปริมาณคาร์บอนที่สูญเสียออกไปในระหว่างการเผาพื้นที่และตรวจสอบปริมาณคาร์บอนในช่วงเวลา 6 เดือน ภายหลังการเผา
จากการศึกษาพบว่าคาร์บอนสะสมในช่วงพักพื้นที่ (ก่อนเผา) สูงที่สุดในไร่ร้าง (79.22 ตันต่อเฮกแตร์) รองลงมาได้แก่ไร่หมุนเวียนรอบยาว (73.01 ตันต่อเฮกแตร์) และในไร่หมุนเวียนรอบสั้น (45.56 ตันต่อเฮกแตร์) ซึ่งคาร์บอนในไร่ร้างไม่ได้รวมไม้ยืนต้น ไร่หมุนเวียนมีสัดส่วนการสะสมคาร์บอนใต้ดินสูงกว่าส่วนที่อยู่เหนือพื้นดิน การเผาไร่ร้างเกิดการสูญเสียคาร์บอนสัมพัทธ์ต่ำที่สุด (ร้อยละ 21) ส่วนไร่หมุนเวียนรอบยาวและรอบสั้นมีการสูญเสียใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 35) แนวโน้มการฟื้นกลับมาในระยะเวลา 6 เดือน ของคาร์บอนในพื้นที่ไร่ร้างและไร่หมุนเวียนรอบยาวมีค่าประมาณ 0.5 ตันต่อเฮกแตร์ต่อเดือน ส่วนไร่หมุนเวียนรอบสั้นมีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจน จากการศึกษาครั้งนี้จะพบว่าการเกษตรแบบไร่หมุนเวียนรอบยาวที่มีระยะเวลาพักพื้นที่นานเพียงพออาจจะรักษาสมดุลระหว่างการปลดปล่อยและการเก็บกักคาร์บอนได้ดีกว่าพื้นที่ไร่หมุนเวียนรอบสั้น
คำสำคัญ: การปลดปล่อยคาร์บอน ไร่ร้าง การถางแล้วเผา ไร่หมุนเวียน
Downloads
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า ต้นฉบับที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ลงในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่วารสารวนศาสตร์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในผลงาน ให้เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) แต่เพียงฝ่ายเดียว และหากข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ประสงค์ถอนบทความในระหว่างกระบวนการพิจารณาของทางวารสาร ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาบทความนั้น”