การจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยว ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

Main Article Content

เบญจมาศ ขัตติยากุล
ดรรชนี เอมพันธุ์
นันทชัย พงศ์พัฒนานุรักษ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปริมาณยานพาหนะและเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยว ปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยจากยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไม่พักค้าง และแนวทางในการลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากยานพาหนะในการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โดยเก็บข้อมูลโดยการสอบถามนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับยานพาหนะที่นักท่องเที่ยวใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และคำนวณหาปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยว โดยการเปรียบเทียบกับตารางปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ผลการวิจัยพบว่า มีจำนวนยานพาหนะทั้งหมด 6,689 คัน เป็นรถตู้ ร้อยละ 33.95 รองลงมา คือ รถเก๋ง รถกระบะ และรถอเนกประสงค์ คิดเป็นร้อยละ 30.27, 22.55 และ 13.23 ตามลำดับ เส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่ คือ นักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงยอดดอยอินททนท์ จำนวน 6,141 คัน คิดเป็นร้อยละ 91.81 รถตู้มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่อคันออกมามากที่สุด และรถเก๋งน้อยที่สุด คิดเป็นค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4,423.93 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อวันที่ปลดปล่อยออกมาจากยานพาหนะทั้งหมด และหากนักท่องเที่ยวทั้งหมดใช้รถบริการขนส่งนักท่องเที่ยว คือ 1) รถกระบะรับจ้างดอยอินทนนท์ 2) รถกระบะรับจ้างดอยอินทนนท์ร้อยละ 50 และรถตู้รับจ้างดอยอินทนนท์ร้อยละ 50 และ 3) รถตู้รับจ้างดอยอินทนนท์ จะมีปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากรถบริการขนส่งนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวัน เท่ากับ 2,356.12 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์, 2,388.78 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ และ 2,421.44 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ ตามลำดับ จากการเปรียบเทียบ พบว่า การที่นักท่องเที่ยวไม่พักค้างทั้งหมดหันมาใช้รถบริการขนส่งนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวนั้น ส่งผลให้ปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั้นลดลง คิดเป็นร้อยละ 46.74, 46.00 และ 45.27 ตามลำดับ


 


คำสำคัญ:  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยว  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

บท
นิพนธ์ต้นฉบับ