การประเมินความหนาแน่นประชากรนกเงือก ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การประเมินความหนาแน่นแบบ distance sampling โดยวิธี point transects เป็นวิธีการที่ถูกนำมาใช้ประเมินประชากรนกเงือกอย่างเข้มข้นในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง การศึกษาครั้งนี้ทำการสำรวจในพื้นที่ป่าดิบซึ่งถือเป็นพื้นที่อาศัยสำคัญของนกเงือก โดยวางเส้นสำรวจระยะทาง 9 กิโลเมตรทั้งหมด 4 เส้นสำรวจ ในแต่ละเส้นมีจุดสำรวจ 45 จุด ระยะห่างระหว่างจุดเท่ากับ 200 เมตร ดำเนินการสำรวจในระหว่างเดือนมกราคม 2547 ถึงเดือนธันวาคม 2548 และเดือนพฤศจิกายน 2551 ถึงเดือนมกราคม 2552 ซึ่งการประเมินความหนาแน่นเป็นการใช้ข้อมูลจากการสำรวจในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ของนกเงือกทั้งหมด 6 ครั้ง และเป็นข้อมูลที่สำรวจแบบพบเห็นตัวโดยตรงและการสำรวจแบบได้ยินเสียงร้อง ส่วนข้อมูลที่พบนกเงือกบินผ่านเส้นสำรวจได้ทำการบันทึกแต่ไม่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ จากการศึกษาพบนกเงือกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน 4 ชนิดคือ นกกก (Buceros bicornis) นกเงือกคอแดง (Aceros nipalensis) นกเงือกกรามช้าง (Aceros undulatus) และนกเงือกสีน้ำตาล (Anorrhinus tickelli) ผลการประเมินความหนาแน่นของนกเงือกด้วยโปรแกรม DISTANCE 5.0 พบว่า นกกก นกเงือกคอแดง และนกเงือกกรามช้าง มีความหนาแน่น 5.279 (n = 71), 3.691 (n = 35), 11.466 (n = 67) ตัว/ตารางกิโลเมตร ตามลำดับซึ่งเป็นการประเมินจากการสำรวจแบบพบเห็นตัวโดยตรง ส่วนนกเงือกสีน้ำตาลใช้ข้อมูลพบเห็นตัวโดยตรงและได้ยินเสียงร้องรวมกัน มีความหนาแน่นน้อยที่สุดคือ 2.764 (n = 17) ตัว/ตารางกิโลเมตร ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถใช้เป็นแบบในการประเมินประชากรนกและสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์ต่อไป
คำสำคัญ: การประเมินจำนวนประชากร นกเงือก การสำรวจแบบ Distance sampling เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
Downloads
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า ต้นฉบับที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ลงในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่วารสารวนศาสตร์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในผลงาน ให้เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) แต่เพียงฝ่ายเดียว และหากข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ประสงค์ถอนบทความในระหว่างกระบวนการพิจารณาของทางวารสาร ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาบทความนั้น”