เศรษฐกิจของการปลูกสร้างสวนสนประดิพัทธ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การปลูกสร้างสวนป่าสนประดิพัทธ์ในจังหวัดฉะเชิงเทราได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ แต่ยังเป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่โตนัก ทั้งนี้เนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางด้านความต้องการของตลาดและราคา ดังนั้นการที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนหันมาให้ความสนใจกับการปลูกสวนสนประดิพัทธ์เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการศึกษาถึงผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจจากการลงทุนปลูกสร้างสวนสนประดิพัทธ์ เพื่อที่จะทราบถึงข้อมูลพื้นฐานที่เป็นประโยชน์สำหรับใช้ในการส่งเสริมด้านการปลูกสร้างสวนสนประดิพัทธ์ให้กับภาคเอกชนในโอกาสต่อไป ในการศึกษาครั้งนี้ได้ใช้วิธีการในการวิเคราะห์ผลสำเร็จของโครงการ ๓ วิธีด้วยกันคือ มูลค่าปัจจุบันสุทธิอัตราส่วนผลได้ต่อต้นทุน อัตราผลตอบแทนของโครงการ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยขึ้น ๔ ระดับคือ ร้อยละ ๔, ๑๑, ๑๓ และ ๑๕ จากการศึกษาพบว่า ในทุกระดับของอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดให้สวนสนประดิพัทธ์ที่มีอายุ ๖ ปีจะให้ค่าของมูลค่าปัจจุบันสุทธิ และอัตราส่วนผลได้ต่อต้นทุนสูงที่สุด ซึ่งค่าต่างๆ ดังกล่าวเท่ากับ ๑๑,๔๘๙.๘๘ ๑๐,๑๑๕.๙๑ ๘,๘๑๐.๑๑ และ ๗,๘๔๙.๘๐ บาทต่อไร่ และ และในระดับอายุของสวนป่าเดียวกันนี้จะให้อัตราผลตอบแทนของโครงการฯ เท่ากับ ๔๔.๔๒ เปอร์เซ็นต์
Downloads
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า ต้นฉบับที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ลงในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่วารสารวนศาสตร์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในผลงาน ให้เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) แต่เพียงฝ่ายเดียว และหากข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ประสงค์ถอนบทความในระหว่างกระบวนการพิจารณาของทางวารสาร ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาบทความนั้น”