ผลของน้ำหมักชีวภาพจากของเหลือทิ้งโรงงานอุตสาหกรรมปลาป่นต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของผักกาดหอมห่อและดาวเรือง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำของเหลือทิ้งจากโรงงานปลาป่นมาใช้ประโยชน์ด้วยการนำมาผลิตเป็นน้ำหมักคุณภาพดี โดยศึกษาสัดส่วนวัตถุดิบและวิธีการผลิตน้ำหมักชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งโรงงานปลาป่น ซึ่งพบว่าสัดส่วนวัตถุดิบที่เหมาะสม คือ เลือดปลา 15 ลิตร : ก้างปลา 1 กิโลกรัม : กากน้ำตาล 5 ลิตร และหัวเชื้อแบคทีเรียผลิตกรดแลคติค 0.2 ลิตร หมักในถังหมักที่มีการกวนเป็นระยะ ๆ เป็นเวลา 21 วัน ทำให้ได้น้ำหมักที่มีปริมาณธาตุอาหารหลัก (N-P-K) สูงที่สุดเท่ากับ 1.08-1.73-2.04 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งให้ธาตุอาหารรอง Mg, Ca และ S สูงที่สุดเท่ากับ 0.21, 0.19 และ 0.14 mg/L เมื่อนำน้ำหมักไปใช้พ่นเป็นปุ๋ยทางใบในอัตราการเจือจางด้วยน้ำ 1 : 150 สำหรับผักกาดหอมห่อ เปรียบเทียบกับปุ๋ยปลาทางการค้า พบว่าน้ำหมักจากวัสดุเหลือทิ้งโรงงานปลาป่นช่วยให้ผักกาดหอมห่อมีการเจริญเติบโตมากกว่า โดยผักกาดที่ได้มีน้ำหนักสด 91.68 และ 81.39 กรัม ตามลำดับ และเมื่อนำน้ำหมักที่ได้ไปปรุงเป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมีสูตร 3-3-3 แล้วนำไปทดสอบกับดาวเรืองเปรียบเทียบกับการให้ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะนำ พบว่าปุ๋ยอินทรีย์เคมี 3-3-3 ช่วยให้ต้นดาวเรืองมีการเจริญเติบโตทางต้น แต่ปริมาณและคุณภาพของดอกได้ไม่แตกต่างกับการใช้ปุ๋ยเคมี โดยต้นดาวเรืองที่ให้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีมีดอกขนาด 6.56 ซม. จำนวน 4.33 ดอกต่อต้น ขณะที่ปุ๋ยเคมีให้ผลผลิตดอกขนาด 6.71 ซม. จำนวน 4.67 ดอกต่อต้น
คำสำคัญ : น้ำหมักชีวภาพ; กากของเสีย; โรงงานปลาป่น
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ข้อความที่ปรากฏในแต่ละเรื่องของวารสารเล่มนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือคณาจารย์ท่านอื่นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เขียนต้องยืนยันว่าความรับผิดชอบต่อทุกข้อความที่นำเสนอไว้ในบทความของตน หากมีข้อผิดพลาดหรือความไม่ถูกต้องใด ๆ
เอกสารอ้างอิง
กรมพัฒนาที่ดิน, 2549, การผลิตและประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์น้ำโดยใช้สารเร่ง พด.2, เอกสารเพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยี ชุดความรู้และเทคโนโลยี, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรุงเทพฯ.
การประปานครหลวง, ค่าการนำไฟฟ้า, แหล่งที่มา : https://www.mwa.co.th/ewt_news.php?nid=13321, 20 มิถุนายน 2561.
กลุ่มงานวิเคราะห์ปุ๋ย, 2541, คู่มือวิธีวิเคราะห์ปุ๋ย, กองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรุงเทพฯ.
พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์ และนิธิยา รัตนาปนนท์, 2558, Benzoic acid / กรดเบนโซอิก, แหล่งที่มา : http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1132/benzoic-acid-กรดเบนโซอิก, 10 มิถุนายน 2561.
วีณา นิลวงศ์, 2556, การศึกษาคุณภาพปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินและการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร, รายงานผลการวิจัย, สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้, เชียงใหม่, 74 น.
วีณารัตน์ มูลรัตน์, 2553, ประสิทธิภาพของน้ำหมักชีวภาพจากเศษปลาที่ใช้น้ำกากส่าเหล้าทดแทนกากน้ำตาลต่อการเจริญเติบโตของผักโขม ผักกวางคุ้งฮ่องเต้ และผักบั้งจีน, วิทยานิพนธ์ปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปทุมธานี.
สุริยา สาสนรักกิจ, 2544, ปุ๋ยน้ำชีวภาพ เทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยปลาหมัก, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย, กรุงเทพฯ.
สุพจน์ ชัยวิมล. 2544, ปุ๋ยน้ำชีวภาพ, เอกสารวิชาการ, กองส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมวิชาการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรุงเทพฯ.
สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2550, ค่ามาตรฐานของกลุ่มควบคุมปุ๋ย, แหล่งที่มา : http://www.doa.go.th, 27 สิงหาคม 2560.
McDonald, P., Henderson, A.R. and Heron, S.J.E., 1991, The Biochemistry of Silage, 2nd Ed., Chalombe Publications, Marlow, England.