ชนิดของน้ำตาลมีผลต่อการเกิดยอดใหม่จากโซมาติกเอ็มบริโอในปทุมมาพันธุ์เชียงใหม่พิ้งค์และพันธุ์ลัดดาวัลย์

Abstract

บทคัดย่อ

ช่อดอกอ่อนปทุมมาพันธุ์เชียงใหม่พิ้งค์และพันธุ์ลัดดาวัลย์สามารถชักนำให้เกิดโซมาติกเอ็มบริโอได้เมื่อเพาะเลี้ยงในที่มืดบนอาหารสูตร MS ที่เติม 2,4-D ความเข้มข้น 2, 4, 6, 8, 10, 12 และ 14 มิลลิกรัม/ลิตร เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และพบว่าปทุมมาทั้ง 2 พันธุ์ มีอัตราการเกิดโซมาติกเอ็มบริโอดีที่สุด 90.00 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนำโซมาติกเอ็มบริโอทั้ง 2 พันธุ์ ซึ่งเพาะเลี้ยงบนอาหารสูตร MS ที่เติม 2,4-D ความเข้มข้น 14 มิลลิกรัม/ลิตร มาชักนำให้เกิดการพัฒนาเป็นต้นอ่อนโดยเปรียบเทียบชนิดของน้ำตาลกลูโคส ซูโครส และมอลโตส ที่เติมลงในอาหารสูตร MS พบว่าอาหารสูตร MS ที่เติมมอลโตส 25 กรัม/ลิตร มีผลทำให้โซมาติกเอ็มบริโอของปทุมมาพันธุ์เชียงใหม่พิ้งค์และพันธุ์ลัดดวัลย์พัฒนาเป็นยอดได้ดีที่สุด คือ 50.00 และ 46.67 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

คำสำคัญ : ปทุมมา; โซมาติกเอ็มบริโอ; กรด 2, 4-ไดคลอโรฟีนอกซีแอซีติก

Abstract

Somatic embryo of Curcuma alismatifolia and Curcuma hybrid ‘Laddawan’ were formed from young inflorescences when cultured them on Murashige and Skoog (MS) medium supplemented with various concentration (2, 4, 6, 8, 10, 12 and 14 mg/L) 2,4-dichlorophenoxyacetic acid (2,4-D) at dark period for 4 weeks. The highest percentage growth rate (90.00 %) of somatic embryo formed on MS medium supplemented with 14 mg/L 2,4-D. When induced these somatic embryo to form new shoot by culturing them on MS medium supplemented with various types (glucose, sucrose and maltose) of sugar. New shoot were formed from Curcuma alismatifolia and Curcuma hybrid ‘Laddawan’ with 25 g/L maltose which were 50.00 and 46.67 percentage, respectively.

Keywords: Curcuma sp.; somatic embryo; 2,4-D-dichlorophenoxyacetic acid