ชนิดเซลล์คุมและความผันแปรของเซลล์เสริมของปากใบกล้วยป่าและกล้วยปลูกบางชนิดในประเทศไทยเพื่อบ่งชี้ความจำเพาะต่อกลุ่มจีโนม

Main Article Content

ณัฐพงค์ โกสิทธิ์
พฤทธิ์ ราชรักษ์

บทคัดย่อ

กล้วยป่าและกล้วยปลูกลูกผสมรับประทานได้เป็นสมาชิกของสกุล Musa วงศ์ Musaceae ถูกจัดจำแนกออกเป็นกลุ่มจีโนม AA, AAA, AAB, ABB, BBB และ BB โดยจีโนม A มาจากกล้วยป่า (M. acuminata) และจีโนม B มาจากกล้วยตานี (M. balbisiana) ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของกล้วยปลูกรับประทานได้ในปัจจุบัน ตัวอย่างกล้วยทั้ง 34 ชนิด ที่เป็นตัวแทนในแต่ละกลุ่มจีโนม นำมาศึกษาชนิดของปากใบและความผันแปรของเซลล์เสริมเพื่อหาลักษณะและความจำเพาะต่อกลุ่มจีโนม พบว่ากล้วยตัวอย่างทุกชนิดมีปากใบแบบ tetracytic type ซึ่งเป็นชนิดที่มีเซลล์เสริมล้อมรอบเซลล์คุม 4 เซลล์ การจัดเรียงตัวของเซลล์เสริมของปากใบกล้วยพบความผันแปร 2 ลักษณะ คือ (1) เซลล์เสริมที่วางตัวขนานเซลล์คุม 2 เซลล์ มีความยาวจนปิดหัวท้ายเซลล์เสริมอีก 2 เซลล์ ที่วางตัวตั้งฉากกับเซลล์คุม และ (2) เซลล์เสริมทั้ง 4 เซลล์ เรียงชิดจรดกันล้อมรอบเซลล์คุม ซึ่งลักษณะความผันแปรของเซลล์เสริมนี้สามารถแบ่งกลุ่มตัวอย่างกล้วยออกจากกัน คือ กลุ่มกล้วยที่มีจีโนม A เป็นองค์ประกอบ คือ กล้วยกลุ่มจีโนม AA, AAA และกลุ่มกล้วยที่มีจีโนม B เป็นองค์ประกอบ คือ กล้วยกลุ่มจีโนม BB และ BBB ส่วนกล้วยกลุ่มที่มีจีโนม AAB และ ABB มีการแสดงออกของลักษณะเซลล์เสริมทั้ง 2 ลักษณะ ส่วนความยาวของเซลล์คุมพบว่ากล้วยกลุ่มจีโนม BB มีแนวโน้มของความยาวของเซลล์คุมมากที่สุด และกล้วยกลุ่มจีโนม BBB พบมีความหนาแน่นของปากใบสูงที่สุด

Article Details

ประเภทบทความ
Biological Sciences
ประวัติผู้แต่ง

ณัฐพงค์ โกสิทธิ์

ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

พฤทธิ์ ราชรักษ์

ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

เอกสารอ้างอิง

เบญจมาศ ศิลาย้อย, 2558, กล้วย, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ, 512 น.

Simmonds, N.W. and Shepherd, K., 1955, The taxonomy and origins of the cultivated bananas, J. Linn. Soc. (Bot.) 55: 302-312.

Silayoi, B. and Babpraserth, C, 1983, Banana Genetic Resource Exploration in Thailand, Report Submitted to IBPGR, Kasetsart University, Bangkok.

กรมวิชาการเกษตร, 2561, กล้วยกินได้ของกรมวิชาการเกษตร, เกินคุ้ม มีเดีย, นนทบุรี, 240 น.

อภิชาติ ศรีสอาด และศุภวรรณ์ ใจแสน, 2556, สารพัดกล้วยยอดนิยม, สำนักพิมพ์นาคาอินเตอร์มีเดียร์ จำกัด, กรุงเทพฯ, 138 น.

Zarinkamar, F., 2007, Stomatal observa tions in dicotyledons, PJBS 10: 199-219.

พวงผกา สุนทรชัยนาคแสง, 2557, กายวิภาคและสัณฐานวิทยาของพืชมีดอก, สำนักพิมพ์ท้อปจำกัด, กรุงเทพฯ, 380 น.

ประศาสตร์ เกื้อมณี, 2551, เทคนิคเนื้อเยื่อพืช, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ, 289 น.

Jain, K.K., 1976, Hydrogen peroxide and acetic acid for preparing epidermal peels from conifer leaves, Stain Technol. 51: 202-204.

Salisbury, E.J., 1928, On the causes and ecological significance of stomatal frequency, with special reference to the woodland flora, Trans. R. Soc. London B 216: 1-65.

ประวัติ สมเป็น, 2526, การศึกษาลักษณะสัณฐานบางประการของกล้วยที่มีจำนวนโครโมโซมต่างกัน, ปัญหาพิเศษปริญญาโท, ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ, 42 น.

Simmonds, N.W., 1977, Bananas, In Evolution of crop plants, Longman, London.

เทียมใจ คมกฤส, 2549, กายวิภาคของพฤกษ์, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. 308 น.

Simmonds, N.W., 1986, Classification and breeding of the banana, In Proceedings of ACAIR.

Arjcharoen, A., Silayoi, B., Wanichkul, K., and Apisitwanich, S., 2010, Variation of B genome in Musa accessions and their new identifications, ANRES 44: 392-400.

ภาสันต์ ศาลทูลทัต, 2540, การชักนำให้กล้วยไข่กลายพันธุ์ในสภาพเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อด้วย colchicine และ oryzalin, วิทยานิพนธ์ปริญญาโท, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ, 70 น.

Ravan, P.H., Berg L.R. and Hassenzahl, D.M, 2008, Environment, The McGraw-Hill, New York, 315 p.