การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งน้ำดิบเพื่อ การผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค: กรณีศึกษา แม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งน้ำและคุณภาพน้ำในแม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีคุณภาพน้ำกับระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งน้ำและคุณภาพน้ำในแม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง และ (3) เสนอแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค: กรณีศึกษา แม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำตรัง จำนวน 227 ครัวเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน
12 แห่ง และสถานประกอบการ จำนวน 14 แห่ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการประชุมรับฟังความคิดเห็น สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test F-test และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการศึกษาพบว่าการมีส่วนร่วมของชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถานประกอบการในการจัดการแหล่งน้ำและคุณภาพน้ำในแม่น้ำตรังจังหวัดตรังอยู่ในระดับน้อยที่สุด (=1.72 S.D.=0.96) ระดับน้อย(
=2.02 S.D.=0.70)และ ระดับน้อยที่สุด (
=1.50 S.D.=0.89) ตามลำดับ ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีคุณภาพน้ำกับระดับการมีส่วนร่วมของชุมชน พบว่า มีความสัมพันธ์สูงมากและเป็นความสัมพันธ์เชิงบวก (r=0.997, sig=0.048) และผลการเสนอแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค: กรณีศึกษา แม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง พบว่า ภาครัฐควรส่งเสริมชุมชนในด้านต่างๆ เช่น การสร้างเครือข่ายภาคประชาชน การให้ความรู้ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เพิ่มช่องทางการสื่อสาร และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นต้นแบบในการมีส่วนร่วม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Vocational Education in Agriculture ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Journal of Vocational Education in Agriculture ถือเป็นลิขสิทธิ์ของJournal of Vocational Education in Agriculture หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Vocational Education in Agriculture ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
WHO. (2017). Drinking-water. From http://www.who.int /media centre/ factsheets/ fs391/en.
สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ. (2560). มาตรฐานน้ำบริโภค. วารสารสุขาภิบาลอาหารและน้ำ, 8(3), 4.
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15. (2559). รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2559. ภูเก็ต: สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15.
การประปาส่วนภูมิภาค. (2561). ข้อมูลสำนักงานประปาการประปาส่วนภูมิภาค. เข้าถึงได้จาก https:// www.pwa.co.th /province/
กรมควบคุมมลพิษ. (2561). ระบบฐานข้อมูลคุณภาพแหล่งน้ำผิวดินทั่วประเทศ. เข้าถึงได้จาก http://iwis.pcdgo. th/index.php?method=water_quality&etc=1543149692344.
สุวัฒน์ อินทรประไพ. (2561). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าโดยการคืนป่าสู่ธรรมชาติต้นนํ้าป่าสักจังหวัดเพชรบูรณ์ (รายงานผลการวิจัย). เพชรบูรณ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพชรบูรณ์.
อริยาภรณ์ ขุนปักษี. (2557). การศึกษาศักยภาพของชุมชนเพื่อการจัดการคุณภาพน้ำ กรณีศึกษา: อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).
สำนักงานโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2562). แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพฯ: สำนักงานโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
กรมโรงงานอุตสาหกรรม. (2561). ข้อมูลโรงงานแยกตามพื้นที่. เข้าถึงได้จาก http:// www2.diw.go. th/factory /tumbol.asp
ยุทธ ไกยวรรณ์. (2559). การวิจัยและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Rovinelli, R. J., and Hambleton, R. K. (1977). On the use of content specialists in the
assessment of criterion-referenced test item validity. Dutch Journal of Educational Research, 2(2), 49-60.
โรจนัจฉริย์ ด่านสวัสดิ์. (2541). บทวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของประชาชนในการวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการจัดการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (รายงานผลการวิจัย). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15. (2563). รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อม 2562. ภูเก็ต: สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15.
เวชสุวรรณ์ พรหมมะศักดิ์และคณะ. (2556). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ บึงเกียดโง้ง อำเภอประทุมพอน จังหวัดจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วารสารการจัดการป่าไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 7(13), 14-26.
Choo-In, S., et al. (2015). The Participation of Surface Water Quality Management, Amphawa District, Samut Songkhram. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 197, 1551-1557.
รักษ์เกียรติ ศิริจันทรานนท์. (2551). บทบาทและทิศทางการดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดลำพูน. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
จรรยาภรณ์ พรหมคุณ. (2554). การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ลุ่มน้ำลำปะเทีย (รายงานผลการวิจัย). นครราชสีมา: สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 5.
ธนกร คำมาเร็ว. (2552). การศึกษาเปรียบเทียบบทบาทขององค์การบริหารส่วนตำบลช่างเคิ่งกับภาคประชาสังคมในการบริการจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อการเกษตร ลุ่มน้ำแม่แจ่ม อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
นัยน์ปพร พงศกรปรัญชัย. (2551). การมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในการจัดการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ จังหวัดสมุทรสงคราม. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง).
อารยา สวาทพงษ์. (2553). ปัจจัยที่มีผลต่อบทบาทของประชาชนริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนตอนล่างในการอนุรักษ์แหล่งน้ำ ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).
กิติชัย รัตนะ. (2555). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการลุ่มน้ำห้วยแม่ท้อ จังหวัดตาก. ใน การประชุมวิชาการแห่งชาติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ครั้งที่ 9 (น.363). นครปฐม: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.
ศรริพร ชูประสูติ. (2559). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ กรณีศึกษา: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จังหวัดภูเก็ต. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์).