ผลการใช้หนอนแมลงวันลายต่อสมรรถภาพการผลิต ของนกกระทาญี่ปุ่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถภาพการผลิตของนกกระทาญี่ปุ่นที่ได้รับอาหารสูตรแตกต่างกัน (เสริมหนอนแมลงวันลายต่างระดับกัน คือ 0, 50 และ 100 เปอร์เซ็นต์) โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (Completely Randomize Design : CRD) แบ่งการทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ซ้ำ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 นกกระทาญี่ปุ่นทดลองได้รับอาหารข้นเชิงการค้าสูตรไก่เนื้อระยะเล็ก สูตร 21 เปอร์เซ็นต์โปรตีน โดยให้กินอาหารแบบเต็มที่ (ไม่ได้รับการเสริมหนอนแมลงวัน) กลุ่มที่ 2 อาหารสำเร็จรูปกับหนอนแมลงวันลาย (อัตราส่วน 1:1 โดยน้ำหนัก) และกลุ่มที่ 3 หนอนแมลงวันลายเพียงอย่างเดียว ใช้นกกระทาญี่ปุ่นคละเพศที่มีอายุ 14 วัน โดยมีน้ำหนักเฉลี่ย 34.67 กรัมต่อตัว จำนวน 90 ตัว ระยะเวลาในการทดลอง 28 วัน ตลอดการทดลองให้สัตว์ทดลองได้รับอาหารและน้ำดื่มอย่างเต็มที่ ผลการทดลองพบว่ากลุ่มที่ 2 มีน้ำหนักตัวเมื่อสิ้นสุดการทดลองสูงที่สุดเฉลี่ย เท่ากับ 135.80 กรัมต่อตัว และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเฉลี่ย เท่ากับ 100.93 กรัมต่อตัว ส่วนอัตราการเจริญเติบโตต่อวันพบว่ากลุ่มที่ 2 มีค่าสูงที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.60 กรัมต่อตัวต่อวัน ส่วนอัตราการเปลี่ยนอาหาร พบว่ากลุ่มที่ 2 มีค่าต่ำที่สุดเฉลี่ยเท่ากับ 2.64 ผลจากการทดลองสรุปได้ว่าการใช้หนอนแมลงวันลายเสริมในอาหารสำเร็จรูปมีผลทำให้นกกระทาญี่ปุ่นมีอัตราการเจริญเติบโตดีกว่าใช้อาหารเพียงอย่างเดียว
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Vocational Education in Agriculture ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Journal of Vocational Education in Agriculture ถือเป็นลิขสิทธิ์ของJournal of Vocational Education in Agriculture หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Vocational Education in Agriculture ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ศิริพันธ์ โมราถบ. (2541). นกกระทาสัตว์เลี้ยงตัวเล็กน่ารัก. วารสารเกษตรใหม่สีสันชีวิตไทย, 3 (17), 41-48.
Martin, F. W., et al. (1998). Quail: an egg & meat production system. from http://www.echonet.org/.
Bovera, F., et al. (2015). Yellow mealworm larvae (Tenebrio molitor, L.) as a possible alternative to soybean meal in broiler diets. British Poultry Science, 56(5), 569-575.
Makkar, H. P. S., et al. (2014). State of the art on use of insects as animal feed. Animal Feed Science and Technology, 197, 1-33.
Bradley, S. W., et al. (1984). House fly oviposition inhibition by larvae of Hermetia illucens, The black soldier fly. Journal of Chemical Ecology, 10, 853-859.
กุลชาติ บูรณะ และทัศนีย์ แจ่มจรรยา. (2554). การติดตามขนาดประชากร การเพาะเลี้ยง และคุณค่าทางโภชนะของแมลงวันลาย. วารสารวิจัย มข. ฉบับบัณฑิตศึกษา, 11(1), 19-26.
สมควร โพธารินทร์ และคณะ. (2561). รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการ ผลิตภัณฑ์จากหนอนแมลงวันลาย เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และอาหารสัตว์โปรตีนสูง ภายใต้โครงการ Innovation Hub-Agriculture&Food เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ศิริชัย พงษ์วิชัย. (2558). การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยคอมพิวเตอร์. พิมพ์ครั้งที่ 25. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรกร มีปาน และคณะ (2555). การใช้ข้าวเปลือกร่วมกับหนอนแมลงวันสดเป็นอาหารไก่พื้นเมืองช่วงอายุ 1-6 สัปดาห์. ใน การประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 2. (O-ST 046 1-14). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
Moula, N., et al. (2018). Performances of local poultry breed fed black soldier fly larvae reared on horse manure. Animal Nutrition, 4(1), 73-78.
Onsongo, V., et al. (2018). Insects for income generation through animal feed: effect of dietary replacement of soybean and fish meal with black soldier fly meal on broiler growth and economic performance. Journal of economic entomology, 111(4), 1966-1973.
Cullere, M., et al. (2016). Black soldier fly as dietary protein source for broiler quails: apparent digestibility, excreta microbial load, feed choice, performance, carcass and meat traits. Animal, 10(12), 1923–1930.