การสกัดว่านหางจระเข้โดยใช้กลีเซอรีน: การต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส และการตั้งตำรับในเครื่องสำอาง

บทคัดย่อ

      ว่านหางจระเข้เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเป็นสมุนไพรที่นิยมเติมลงในสูตรเครื่องสำอางเนื่องจากมีคุณสมบัติในการบำรุงผิว อย่างไรก็ราคาที่สูงของสารสกัดว่านหางจระเข้ในท้องตลาดทำให้ต้นทุนการผลิตสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมสูงตามไปด้วย ในงานวิจัยนี้การสกัดเจลว่านหางจระเข้สดด้วยกลีเซอรีนได้ถูกพัฒนาขึ้น สารละลายกลีเซอรีนเข้มข้น 20-80% ถูกใช้ในการสกัดเจลว่านหางจระเข้สด สารละลายถูกทำให้แห้ง และได้ทดสอบประสิทธิภาพของการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส สารสกัดกลีเซอรีนเจลว่านหางจระเข้สดแสดงเปอร์เซ็นต์การยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสในช่วงระหว่างร้อยละ 38.72- 42.05 และสารสกัดที่ใช้สารละลายกลีเซอรีน 80% เป็นตัวทำละลายมีระดับการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสสูงสุดที่ 42.05% ± 1.35 เมื่อเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ของการต้านเอ็นไซม์ไทโรซิเนส ของสารสกัดหยาบของว่านหางจระเข้ซึ่งใช้วิธีการสกัดแบบมาตรฐานพบว่ามีการต้านเอ็นไซม์ไทโรซิเนสที่ร้อยละ 47.50 ± 1.98 ซึ่งใกล้เคียงกับสารสกัดที่ใช้กลีเซอรีน จากข้อมูลข้างต้น ได้มีการพัฒนาวิธีการสกัดเจลว่านหางจระเข้สดที่มีประสิทธิภาพและสะดวก เจลว่านหางจระเข้สดและสารละลายกลีเซอรีน 80% (1:1) ถูกผสมและปั่นโดยใช้เครื่องปั่นอเนกประสงค์ กรองด้วยผ้าขาว สารละลายจากการกรองถูกใช้ในสูตรเครื่องสำอาง ทั้งหมด 2 สูตร คือ Aloe vera body spa (ABS) และ Aloe vera hydrating gel (AHG) ถูกพัฒนาโดยใช้สารสกัดกลีเซอรีนเจลว่านหางจระเข้สดเป็นส่วนผสมตั้งแต่ 0-50 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักในแต่ละสูตร หลังจากตั้งสูตรแล้วตรวจสอบความเข้ากันได้ของสารสกัดกลีเซอรีนเจลว่านหางจระเข้สดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยสังเกตการแยกชั้น พบว่าสารสกัดกลีเซอรีนเจลว่านหางจระเข้สดสามารถเข้ากันได้ดีกับสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นอกจากนี้จากการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดกลีเซอรีนเจลว่านหางจระเข้สดมีความคงตัวที่ดี ปริมาณสูงสุดของสารสกัดกลีเซอรีนเจลว่านหางจระเข้สดในสูตรเครื่องสำอางทั้งสองสูตร (ABS และ AHG) คือ 5% และ 10% ตามลำดับ