การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่งทางบก: กรณีศึกษาหนึ่งของบริการสหกรณ์บริการเดินรถยนต์โดยสาร
คำสำคัญ:
ก๊าซเรือนกระจก, ภาคการขนส่งทางบก, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, Greenhouse gas, road transportation sector, climate changeบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้เพื่อประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการภาคการขนส่งทางบก กรณีศึกษาคือ สหกรณ์บริการเดินรถโดยสารจังหวัดแพร่ จำกัด วิธีการคำนวณและปัจจัยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สำหรับการรายงานบัญชีก๊าซเรือนกระจกแห่งชาติ ปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) สหกรณ์เดินรถโดยสารมีพื้นที่บริการแบ่งเป็น 8 เส้นทาง มีรถโดยสาร 125 คัน ทั้งหมดเป็นรถบรรทุกดีเซลน้ำหนักเบา (กะบะ) ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า ในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) สหกรณ์เดินรถยนต์โดยสารจังหวัดแพร่จำกัด ผลิตก๊าซเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,488.73 ตันเส้นทางแพร่ถึงสรอยปล่อยก๊าซสูงสุด และ เส้นทางแพร่ถึงเชตะวันปล่อยก๊าซต่ำสุด ปริมาณก๊าซเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 506.14 และ 13.20 ตันตามลำดับ
Greenhouse gas emission from road transportation sector: A case study of transportation cooperative service
Yutthapong Panmanee1, Chutima Jaiphet1 and Anusorn Boonpoke1*
1 School of Energy and Environment, University of Phayao, Phayao Province 56000
The objective of this research was to evaluate the amount of greenhouse gas emission from road transportation sector. Phrae Transportation Cooperative Limited was selected as a study case. The calculation method and greenhouse gas emission factor were performed according to recommendation in Internatioal Panel on Climate Change (IPCC) 2006 guideline for national greenhouse gas inventory report. Service area of the transport cooperation can be divided into 8 routes, 125 cars which is all light weight diesel trucks. The results indicated that, in 2011, Phrae transportation cooperative limited service produced 1,488.73 tCO2eq. The maximum and minimum emission was found from Phrae - Salhoy and Phrae -Chetawan routes of 506.14 and 13.20 tCO2eq, respectively.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยา ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย

