การศึกษาความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคพยาธิภายในของแมวที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

Main Article Content

อภิภาวดี นันทะวัง
วิลาสินี ศรีสุข
สุภาภรณ์ อุดมทรัพย์
สิทธิชน รัตนจันทร์
สิทธิวสันต์ ดลวงศ์จันทอง

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาระยะสั้นเชิงพรรณนา (Cross-sectional descriptive study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคพยาธิภายในของแมวที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัย  ราชภัฏเชียงราย ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม พ.ศ. 2567 โดยเก็บอุจจาระจากแมวที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จำนวน 28 ตัว ตรวจหาไข่พยาธิโดยวิธี Direct smear และ Formalin-ether concentration technique และศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคพยาธิภายในของแมว โดยเก็บข้อมูลจากแบบบันทึกประวัติของสัตว์และแบบสอบถามจากเจ้าของ จากการศึกษาพบความชุกของโรคพยาธิภายในของแมวเท่ากับ 60.71% โดยความชุกของไข่พยาธิไส้เดือนชนิด Toxocara cati เท่ากับ 46.43% ความชุกของไข่พยาธิปากขอชนิด Uncinaria stenocephala ไข่พยาธิปากขอชนิด Ancylostoma spp. และไข่พยาธิใบไม้ตับแมวชนิด Platynosomum fastosum มีค่าเท่ากัน คือ 7.14% และความชุกของไข่พยาธิใบไม้ตับชนิด Opisthorchis viverrini เท่ากับ 3.57% ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคพยาธิภายในของแมวอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ การเลี้ยงแบบระบบเปิด (p < 0.01) และพฤติกรรมการกิน/จับ จิ้งจก นก แมลงสาบ หนู (p < 0.05) ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นและเป็นประโยชน์สำหรับสัตวแพทย์และเจ้าของแมวในการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดโรคพยาธิภายในของแมว รวมทั้งเป็นข้อมูลสำหรับการวิจัยในขั้นสูงต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นันทะวัง อ., ศรีสุข ว., อุดมทรัพย์ ส., รัตนจันทร์ ส., & ดลวงศ์จันทอง ส. (2025). การศึกษาความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคพยาธิภายในของแมวที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 4(1), 64–70. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/jstcrru/article/view/267111
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

McGlade, T.R., Robertson, I.D., Elliot, A.D., Read, C., & Thompson, R.C.A. (2003). Gastrointestinal parasites of domestic cats in Perth, Western Australia. Vet. Parasitol., 117, 251-262.

Palmer, C. S., Traub, R. J., Robertson, I. D., Hobbs, R. P., Elliot, A., While, L., Rees, R., & Thompson, R. C. (2007). The veterinary and public health significance of hookworm in dogs and cats in Australia and the status of A. ceylanicum. Vet. Parasitol., 145(3-4), 304–313.

วีรพล ทวีนันท์. (2543). หนอนพยาธิตัวกลมที่สำคัญในสัตว์เลี้ยง. หน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิชีววิทยา คณะสัตว-แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 174 หน้า.

Jittapalapong, S., Inparnkaew, T., Pinyopanuwat, N., Kengradomkij, C., Sangvaranond, A., & Wongnakphet, S. (2007). Gastrointestinal parasites of stray cats in Bangkok metropolitan areas Thailand. Kasetsart J. (Nat Sci), 41, 69-73.

Rojekittikhun, W., Mahittikorn, A., Prummonkol, S., Puangsa-Art, S., Chaisiri, K., & Kusolsuk, T. (2013). Prevalence of gastrointestinal parasitic infections in refuge dogs and cats and evaluation of two conventional examination techniques prevalence of GI parasites in refuge dogs and cats. Trop. Med. Parasitol., 36, 58-67.

Overgaauw, P. A. M., & van Knapen, F. (2013). Veterinary and public health aspects of Toxocara spp. Vet. Parasitol., 193(4), 398–403.

Despommier, D. (2003). Toxocariasis: Clinical aspects, epidemiology, medical ecology, and molecular aspects. Clin. Microbiol. Rev., 16(2), 265–272.