การพัฒนาโปรแกรมเพืออ่านค่าแถบสีตัวต้านทานด้วยการประมวลผลภาพ
Main Article Content
Abstract
การอ่านค่าตัวต้านทานในปัจจุบันยังเป็นการอ่านค่าในลักษณะของการพิจารณาบริเวณค่าแถบสีบนตัวต้านทาน ด้วยสายตา เนื่องจากตัวต้านทานมีขนาดเล็กลงส่งผลให้การอ่านค่าแถบสีแปลเป็นค่าตัวต้านทานทำได้ยากสำหรับผู้ที่สายตาสั้นหรือตาบอดสีจะไม่สามารถแปลค่าความต้านทานได้ งานวิจัยนี้จึงได้พัฒนาโปรแกรมที่ใช้อ่านค่าตัวต้านทานด้วยหลักการประมวลผลภาพ โดยเก็บภาพจากกล้องเว็บคาเมร่า แล้วนำไปประมวลผลคัดแยกแถบสีของตัวต้านทานด้วยฟัซซีซีมีน จากตัวต้านทานแบบ 4 แถบสี ทั้งหมด 20 ตัว สำหรับฝึกสอนระบบ ประเมินความแม่นยำโดยการทำ 10 เปอร์เซ็นต์ ครอสวาริเดชั่น และสุ่มตัวต้านทานจำนวน 9 ตัว สำหรับทดสอบระบบ จากนั้นทำการระบุค่าแถบสีเพื่อทำการแปลเป็ นค่าความต้านทาน ด้วยขั้นตอนวิธีการค้นหาเพื่อนบ้านใกล้เคียง จากผลการทดลองพบว่าตัวโปรแกรมสามารถแปลค่าความต้านทานจากแถบสีที่ทำการวิเคราะห์ โดยมีความแม่นยำในการแปลค่าความต้านทานอยู่ที่ 86 เปอร์เซ็นต์
Program development for reading resistance color band by the image processing
By the perception, presently, the value of resistors was read in the area consideration of color bands on the resistor. Since the resistance is smaller, the result of the reading resistor color bands value was difficult to those who were short-sighted or had color blind. It could not translate resistance values. This research had developed the program for reading the resistor with the image processing with collecting images from the webcam. Then the processing separated color bands of a resistor with Fuzzy C-min from all 20 resisters. There were 4 color bands of the training system which assessing the accuracy 10% cross validation, and the 9 resistors were randomized for testing the system and identified the color bands for translating the resistance value with the K-Nearest Neighbor algorithm. From the experimental program, this could translated the resistance from color bands accurately at 86%.
Article Details
Published manuscript are the rights of their original owners and RMUTSB Academic Journal. The manuscript content belongs to the authors' idea, it is not the opinion of the journal's committee and not the responsibility of Rajamangala University of Technology Suvarnabhumi