เครื่องทำน้ำเย็นแบบไม่ใช้คอมเพรสเซอร์
คำสำคัญ:
เครื่องทำน้ำเย็น, เทอร์โมอิเล็กทริก, คอมเพรสเซอร์บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเครื่องทำน้ำเย็นแบบไม่ใช้คอมเพรสเซอร์ การออกแบบระบบทำความเย็นจะใช้เทอร์โมอิเล็กทริก เพื่อให้ได้อุณหภูมิน้ำได้ 15 – 22 องศาเซลเซียส เพราะช่วงอุณภูมิน้ำเหมาะสมกับร่างกาย ซึ่งได้ทำการทดลองการจ่ายแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกันที่ 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ วัดค่ากระแสไฟฟ้า อุณหภูมิของน้ำ นำไปเปรียบเทียบกับเครื่องทำน้ำเย็นแบบคอมเพรสเซอร์
ผลการทดลองเครื่องทำน้ำเย็นแบบไม่ใช้คอมเพรสเซอร์ที่สร้างขึ้นสามารถทำความเย็นได้ต่ำสุด ประมาณ 16 องศาเซลเซียส อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ถ้าเปรียบเทียบจากการใช้พลังงานของเครื่องทำน้ำเย็นแบบไม่ใช้คอมเพรสเซอร์ จะเห็นว่าใช้พลังงาน 17.6 วัตต์ ซึ่งถ้าเป็นตู้น้ำเย็นแบบใช้คอมเพรสเซอร์แล้วต้องใช้พลังงานประมาณ 150 วัตต์ และเครื่องทำน้ำเย็นแบบไม่ใช้คอมเพรสเซอร์ว่าจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 1,018 บาท ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องทำน้ำเย็นแบบคอมเพรสเซอร์
เอกสารอ้างอิง
โชติวัธน์ ศุภิรัตนกุล, อัจฉราภรณ์ จุฑาผาด. สมรรถนะเชิงความเย็นของเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้เทอร์โมอิเล็กทริก. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี. หน้าที่ 51-59, 2557.
กษมา ศิริสมบูรณ์, ณัฐชัย คำมั่น. ระบบทำความเย็นเทอร์โมอิเลคทริคสำหรับตู้แช่ผลไม้. การประชุมวิชาการระดับชาติทางด้าน วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขต สนามจันทร์, หน้าที่ 192-200, ธ.ค. 2556.
วิรัช กองสิน. ศึกษาและออกแบบกระติกเก็บวัคซีนด้วยอุปกรณ์เทอร์โมอิเล็กทริก. การประชุมวิชาการ การพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน ครั้งที่ 4 ประจำปี 2557. 11-13 มิถุนายน 2557.
ธีรเดช ภัทรวโรดม. กระติกเก็บวัคซีนขนาดเล็กโดยใช้เทอร์โมอิเล็กทริกโมดูล. ปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. 2552.
Rowe D.M., 1995, Crc Handbook of Thermoelectric, CRC Press, USA pp. 489-501.
ไฟล์ประกอบ
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องต้องผ่านการพิจารณาคุณภาพทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิประจำศาสตร์ (Peer Review) จำนวน 3 ท่าน ต่อ 1 บทความ
2. ข้อความหรือข้อคิดเห็นในวารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ฉบับนี้เป็นของผู้เขียนบทความ คณะผู้จัดวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา