แนวทางการจัดการพื้นที่ทับซ้อนระหว่างพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกับ พื้นที่แกนกลางสงวนชีวมณฑลระนอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
พื้นที่สงวนชีวมณฑล ได้กำหนดให้พื้นที่แกนกลางเป็นพื้นที่สงวนรักษาความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศและปราศจากกิจกรรมของมนุษย์ยกเว้นการศึกษาวิจัย แต่พื้นที่แกนกลางสงวนชีวมณฑลระนองมีการซ้อนทับกับพื้นที่ ส.ป.ก. 4–01 ซึ่งอนุญาตให้มีการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อการเกษตรกรรมได้ ทำให้แนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินขัดแย้งกัน การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณแกนกลางสงวนชีวมณฑลระนอง รูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดิน และเสนอแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ภายใต้สภาพการณ์ต่าง ๆ โดยมีวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ การสังเกตการณ์ การสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลัก การประชุมกลุ่ม และการสำรวจด้วยแบบสัมภาษณ์จากเกษตรกรผู้ถือครองที่ดินจำนวน 28 ราย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย พร้อมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินรายแปลง และแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ด้วยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม ปัจจัยเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดินภายใต้บริบทพื้นที่ปฏิรูปที่ดินในเขตแกนกลางสงวนชีวมณฑล ให้ได้มาซึ่งฉากทัศน์แนวทางการบริการจัดการพื้นที่
ผลการศึกษา พบว่า เกษตรกรมีที่ทำกินเฉลี่ย 9 ไร่ 66 ตารางวา (14,664 ตารางเมตร) รวมที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณพื้นที่แกนกลางสงวนชีวมณฑลระนอง ประมาณ 340 ไร่ (544,000 ตารางเมตร) รูปแบบการประโยชน์ ได้แก่ 1) ยางพาราเชิงเดี่ยว 2) ยางพาราผสมผสานกับพืชชนิดอื่น ๆ และ 3) สวนผลไม้ผสมผสานพืชชนิดอื่น แนวทางบริหารจัดการพื้นที่มี 3 ฉากทัศน์ ประกอบด้วย 1) การเวนคืนพื้นที่ 2) การใช้ขอบเขตเดิม และ 3) การเสนอขอกำหนดเขตพื้นที่แกนกลางใหม่ แนวทางการดำเนินการ ได้แก่ 1) การออกแบบการใช้ประโยชน์และจัดการพื้นที่ร่วมกัน 2) ให้ความรู้กับเกษตรกร 3) การพัฒนากลไกร่วมในการดูแลรักษา ป้องกันพื้นที่ 4) การสร้างกฎ กติกาชุมชนในการจัดการพื้นที่ 5) การพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ และ 6) การส่งเสริมอาชีพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า ต้นฉบับที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ลงในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่วารสารวนศาสตร์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในผลงาน ให้เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) แต่เพียงฝ่ายเดียว และหากข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ประสงค์ถอนบทความในระหว่างกระบวนการพิจารณาของทางวารสาร ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาบทความนั้น”
เอกสารอ้างอิง
Agricultural Land Reform Office. 2023. Deed for Agriculture. https://alro.go.th/th/alro/, 19 October 2023. (in Thai)
Department of Marine and Coastal Resources. 2021. Biosphere Reserves. https://km.dmcr.go.th/c_61/s_71/d_2343, 19 November 2022. (in Thai)
Faculty of Forestry. 2021. Project, entitled a Study and Development Project of Core Zones participatory Management of Koh Jak the Ranong Biosphere Reserve (RBR). Kasetsart University, Bangkok, Thailand. (in Thai)
Gougherty, M., Puentes. J. 2020. Sociology in everyday Life. Faculty of Sociology, Eastern Oregon University, USA.
Ministry of Agriculture and Cooperatives. 2015. Agricultural Land Reform Act B.E. 2518. https://www.moac.go.th/law_agri–files–422891791061, 10 July 2023. (in Thai)
Musavengane, R. 2019. Using the systemic-resilience thinking approach to enhance participatory collaborative management of natural resources in tribal communities: Toward inclusive land reform-led outdoor tourism. Journal of Outdoor Recreation and Tourism, 25: 45-56. 10.1016/j.jort.2018.12.002
Namdoung, K., Intaraksa, A., Phewnil, A., Semwimol, N. 2021. Factors of land use change in Laemphakbia sub–district area Banlaem district, Phetchaburi province. Journal of Social Sciences Srinakharinwirot University, 24(1): 1–12. (in Thai)
Onaindia, M., Ballesteros, F., Alonso, G., Monge-Ganuzas, M., Peña, L. 2013. Participatory process to prioritize actions for a sustainable management in a biosphere reserve. Environmental Science & Policy, 33: 283-294. https://doi.org/10.1016/j.envsci.2013.05.012
Sagie, H., Orenstein, D.E. 2022. Benefits of stakeholder integration in an ecosystem services assessment of Mount Carmel Biosphere Reserve, Israel. Ecosystem Services, 53: 101404. doi.org/10.1016/j.ecoser.2021.101404
Sirarotchananon, N. 2012. Socio – Economic Factors Influencing Land use Change: Case Study at Wang Watershed Area, Pahung Sub–district, Phan District, Chiang Rai Province. Forest Department: Forest Research and Development Office, Bangkok, Thailand. (in Thai)
UNESCO. 2024. Biosphere Reserves, http://www. en.unesco.org/biosphere, 23 November 2024.