การใช้ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วมสู่เกษตรอินทรีย์ยุค 3.0 และเพิ่มรายได้ของเกษตรกรรายย่อย

Main Article Content

สวรรค์ มณีโชติ
ดุสิต อธินุวัฒน์

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


ผลของการใช้ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (พีจีเอส) ขับเคลื่อนการทำเกษตรอินทรีย์ในชุมชนเกษตรกรรายย่อย บนพื้นฐานการมีวิสัยทัศน์ร่วม ความไว้วางใจกัน ความสัมพันธ์แนวราบ ความโปร่งใส การมีส่วนร่วม และกระบวนการเรียนรู้ โดยใช้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ประจำชาติ (Organic Thailand) ในการรับประกันคุณภาพสินค้าอินทรีย์ ตามแนวทางการดำเนินงานของระบบพีจีเอส และ Organic 3.0 สามารถเพิ่มจำนวนเกษตรอินทรีย์ได้ 34 คน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตก่อนเข้าสู่ระบบพีจีเอสเฉลี่ยเท่ากับ 1,512 บาท และมีต้นทุนการผลิตลดลงหลังเข้าสู่ระบบพีจีเอสเฉลี่ยเท่ากับ 450 บาท บ่งชี้ให้เห็นว่าระบบพีจีเอสลดต้นทุนการผลิต 70.23 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งสินค้าอินทรีย์ที่รับรองด้วยระบบพีจีเอสมีราคาเพิ่มขึ้น 15-79 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 11.11 เปอร์เซ็นต์ต่อคนต่อปี ระบบพีจีเอสสามารถเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรเพศหญิง ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสุขภาพของเกษตรกรผู้ผลิต สนับสนุนการเข้าถึงอาหารอินทรีย์คุณภาพสดและปลอดภัย เพิ่มขีดการยอมรับของผู้บริโภค เพิ่มความเข้มแข็งของกลุ่ม และเพิ่มช่องทางการตลาด ตลอดจนเกษตรกรมีความพึงพอใจมากที่สุดในการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ด้วยระบบพีจีเอส 


คำสำคัญ : พีจีเอส; เกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน; ชุมชนรับรอง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มณีโชติ ส., & อธินุวัฒน์ ด. (2019). การใช้ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วมสู่เกษตรอินทรีย์ยุค 3.0 และเพิ่มรายได้ของเกษตรกรรายย่อย. Thai Journal of Science and Technology, 8(5), 468–478. https://doi.org/10.14456/tjst.2019.53
ประเภทบทความ
วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
ประวัติผู้แต่ง

สวรรค์ มณีโชติ

สาขาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120

ดุสิต อธินุวัฒน์

สาขาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120

เอกสารอ้างอิง

จุฑาทิพย์ สองเมือง, สุทธิ ชัยพฤกษ์ และสัญจิตา อรชุนเลิศไมตรี, 2551, การเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนจากการปลูกข้าวอินทรีย์และข้าวใช้สารเคมีของเกษตรกรในอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี, การวิจัยพื้นฐาน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, ปทุมธานี.
ชาลิสา สุวรรณกิจ และกนกเนตร เปรมปรี, 2559, การเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนระหว่างการปลูกข้าวเกษตรอินทรีย์กับเกษตรเคมี, Veridian E-J. Silpakorn Univ. 9(2): 519-526.
มูลนิธิเกษตรอินทรีย์ไทย, 2558ก, มาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม, กรุงเทพฯ, 28 น.
มูลนิธิเกษตรอินทรีย์ไทย, 2558ข, แนวทางการตรวจเยี่ยมฟาร์มเพื่อนในระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม, กรุงเทพฯ, 23 น.
ราตรี ล้วนจิรพันธ์, 2553, การเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนระหว่างการปลูกข้าวอินทรีย์และการปลูกข้าวใช้สารเคมี ในอำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี, รายงานการค้นคว้าอิสระระดับปริญญาโท, ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.
อธิราช ศรีเสาวลักษณ์, 2558, What is Organic 3.0?, แหล่งที่มา : http://www.sathai.org/autopagev4/files/dqylHX7Thu50115.pdf, 3 มีนาคม, 2562.
อรกช เก็จพิรุฬห์, 2556, การเปรียบเทียบโครงสร้างต้นทุนและผลตอบแทนการปลูกข้าวแบบเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีย์กรณีศึกษา ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร, แก่นเกษตร 41(2): 171-180.
Altenbuchner, C., Vogel, S. and Larcher, M., 2017, Effects of organic farming on the empowerment of women: A case study on the perception of female farmers in Odisha, India, Women. Stud. Int. Forum 64: 28-33.
Bakewell-Stone, P., Lieblein, G. and Francis, C., 2008, Potentials for organic agriculture to sustain livelihoods in Tanzania, Int. J. Agric. Sustain. 6: 22-36.
Castro, F., 2014, Overview of Participatory Guarantee Systems in 2013, In Willer, H. and Lernoud, J. (Eds.), The world of Organic Agriculture, Statistics and Emerging trends 2014, IFOAM (Bonn) and FiBL (Frick).
Hendel, D., 1977, AERA Mini Presentation. Value based Management.net. 7-S Framework of McKinsey, Available Source: http://www.valuebasedmanagement.net/methods_7S.html., February 9, 2017.
IFOAM-Organics International, 2017, Organic 3.0 - For Truly Sustainable Farming and Consumption, Available Source: www. ifoam.bio/organic3zero, March 3, 2019.
Kasikorn Research Center in Thailand, 2007, Organic Thai Agriculture Opportunity… If the Government Accelerated the Standard of Production, Available Source: https://www.kasikornresearch.com/TH/K-EconAna lysisPages/ViewSummary.aspx?docid=14345, March 21, 2019.
Kirchner, C., 2014, Participatory guarantee systems (PGS): How PGS can intensify knowledge exchange between farmers, IFOAM Organic World Congress 2014 “Building Organic Bridges”, Istanbul.
Lundberg, J. and Moberg, F., 2009, Report: Organic Farming in Brazil. Swedish Society for Nature Conservation, Stockholm, Sweden, Available Source: http://www.ifoam.bio, March 3, 2019.
Malakouti, J., 2014, Organic agriculture is the way of human salvation, J. Sabzineh 92: 15-16.
Morshedi, L., Lashgarara, F., Hosseini, S.J.F. and Najafabadi, M.O., 2017, The role of organic farming for improving food security from the perspective of fars farmers, Sustain. (Switz.) 9(11): 2086.
Nelson, E., Gomez Tovar, L., Schwentesius Rindermann, R. and Gómez Cruz, M., 2010, Participatory organic certification in Mexico: An alternative approach to maintaining the integrity of the organic label, Agric. Human Values 27: 227-237.
Reyes, T., 2008, Agroforestry systems for sustain able livelihoods and improved land management in the East Usambara Mountains, Tanzania, Academic Disserta tion, Helsinki.