ผลของกากเม่าต่อค่าโลหิตวิทยาบางประการและประชากรจุลินทรีย์ในไส้ติ่งของไก่เนื้อ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของกากเม่าต่อค่าโลหิตวิทยาบางประการและประชากรจุลินทรีย์ในไส้ติ่งของไก่เนื้อ ใช้แผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ โดยใช่ไก่เนื้อเพศผู้สายพันธุ์ Cobb จำนวน 400 ตัว แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ซ้ำ ซ้ำละ 20 ตัว ไก่เนื้อแต่ละกลุ่มได้รับอาหารพื้นฐานเสริมด้วยกากเม่าที่ระดับ 0, 0.5, 1.0 และ 1.5 % ผลการศึกษาพบว่ากากเม่าแห้งและอาหารทดลองมีปริมาณกรดมาลิก กรดทาร์ทาริก และกรดซิตริกไม่แตกต่างกันทางสถิติ (P > 0.05) การเสริมกากเม่าที่ระดับ 0 % มีปริมาณจุลินทรีย์ทั้งหมดสูงกว่าการเสริมกากเม่าที่ระดับ 1.0 และ 1.5 % อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.05) การเสริมกากเม่าที่ระดับ 0 และ 0.5 % มีปริมาณแลคโตบาซิลลัสสูงกว่าการเสริมกากเม่าที่ระดับ 1.0 และ 1.5 % อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.05) ในขณะที่พบว่าไก่เนื้อในทุกกลุ่มการทดลองมีปริมาณเอสเชอริเชียโคไลไม่แตกต่างกันทางสถิติ (P > 0.05) การเสริมกรดอินทรีย์ในกากเม่าที่ระดับ 0.5, 1.0 และ 1.5 % มีค่าอัตราส่วนของเฮทเทอโรฟิลและลิมโฟไซต์ลดลง จากผลการศึกษาทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่ากากเม่าสามารถใช้เป็นสารเสริมในอาหารไก่เนื้อได้ โดยช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในไส้ติ่งของไก่เนื้อและค่าอัตราส่วนของเฮทเทอโรฟิลและลิมโฟไซต์ลดลง
คำสำคัญ : กรดอินทรีย์; กากเม่า; ค่าอัตราส่วนของเฮทเทอโรฟิลและลิมโฟไซต์
Article Details
เอกสารอ้างอิง
[2] เยาวมาลย์ ค้าเจริญ และสาโรช ค้าเจริญ, 2548, การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่การใช้ในเชิงอุตสาหกรรม, การประชุมวิชาการสมุนไพร :โอกาสและทางเลือกใหม่ของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ ครั้งที่ 3, ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, กรุงเทพฯ
[3] โอภาส บุญเส็ง, 2550, ไวน์มะเม่าที่สังขละบุรี, น.เทคโนโลยีชาวบ้าน 80(2): 103-107.
[4] กานดา ล้อแก้วมณี และสุดาทิพย์ แสนสุภา, 2558, คุณค่าทางโภชนาการของกากเม่า, ว.วิทยาศาสตร์เกษตร 46(3)(พิเศษ): 569-572.
[5] Gross, W.B. and Siegel, P.B., 1986. Effect of initial and second periods of fasting on heterophil/lymphocyte ratios and BW, Avian Dis. 30: 345-346
[6] McFarlane, J.M. and Curtis, S.E., 1989, Multiple concurrent stressors in chickens: 3. Effects on plasma corticosterone and the heterophil:lymphocyte ratio, Poult. Sci. 68: 522-527.
[7] ชลธิชา นิวาสประกฤติ, ปิยานี รัตนชํานอง, อรทัย อร่ามพงษ์พันธ์ และทักษิณ อาชวาคม, 2555, การวิเคราะห์ปริมาณกรดอินทรีย์ในผลตะค้อจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยด้วยเทคนิคโครมาโทกราฟีชนิดของเหลวประสิทธิภาพสูง, การประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ครั้งที่ 9, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน, นครปฐม.
[8] SAS Institute, 2002, SAS user’s guide, Version 9.0 ed. SAS Institute Inc., Cary, NC, USA.
[9] ดนุพล สุพรรณวงษ์, อุไร นนท์อาษา, เสมอใจ บุรีนอก, ไกรสิทธิ วสุเพ็ญ, ศศิพันธ์ วงสุทธาวาส, ปราโมทย์ แพงคำ, ฉลอง วชิราภาภร, เมธา วรรณพัฒน์ และเฉลิมพล เยื้องกลาง, 2555, ผลของการเสริมกากเม่าต่อปริมาณการกินได้และการย่อยได้ของโภชนะในแพะ, แก่นเกษตร (ฉบับพิเศษ 2): 223-229.
[10] ธนภูมิ บุญมี, 2554, ผลของแหล่งคาร์โบไฮเดรตและระดับของกากเม่าสดต่ออัตราการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการย่อยได้ คุณภาพซาก องค์ประกอบของคุณภาพเนื้อและกรดไขมันในเนื้อสุกรหย่านมพันธุ์กระโดน, วิทยานิพนธ์ปริญญาโท, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร, สกลนคร.
[11] Vasupen, K., Yuangklang, C., Michonathai, J., Wongsuthavas, S., Kesorn, P., Traiyakun, S., Bureenok, S. and Benynen, A.C., 2011, Effects of supplemented fresh mao pomace and organic acids on growth performance of native (Kadon) pigs, pp. 834-836, The 3rd International Conference on Sustainable Animal Agriculture for Developing Countries (SAADC2011), Nakon Ratchasima.
[12] พรพรรณ รัตนนาคินทร์, 2540, อินทรีย์เคมี, ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, เชี่ยงใหม่. 229 น.
[13] กานดา ล้อแก้วมณี, อัญชัน ไตรธิเลน และนฤทธิ์ อุดมวงค์, 2559, ผลการเสริมกากเม่าจากน้ำคั้นสดในอาหารต่อสมรรถภาพการผลิตและค่าโลหิตวิทยาบางประการของไก่ไข่, แก่นเกษตร 44(ฉบับพิเศษ 1): 413-418.
[14] Risley, C.R., Kornegay, E.T., Lindeman, M.D., Wood, C.M. and Eigel, W.M., 1992, Effect of feeding organic acid on selected intestinal content measurement at various time post weaning pig, J. Anim. Sci. 70: 196-206.
[15] Ravindran, V. and Kornegay, E.T., 1993, Acidification of weaned pig diets: A review, J. Sci. Food Agric. 62: 313-322.
[16] อัจฉรา นิยมเดชา, 2559, การใช้กรดอินทรีย์ต่อการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียกลุ่มก่อโรค (ซัลโมเนลล่า) ในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก, ว.เกษตร 32(1): 139-149.
[17] Puangpronpitag, D., Areejitranusorn, P. Boonsiri, P. Suttajit, M. and Yongvanit, P., 2008, Antioxidant activities of polyphenolic compounds isolated from Antidesma thwaitesianum Müll. Arg. seeds and marcs, J. Food Sci. 73: 648-653.
[18] Nuengchamnong, N. and Ingkaninan, K., 2010, On-line HPLC-MS-DPPH assay for the analysis of phenolic antioxidant compounds in fruit wine: Antidesma thwaitesianum Müll, Food Chem. 118: 147-152.
[19] Puangpronpitag, D., Yongvanit, P., Boonsiri, P., Suttajit, M. Areejitranusorn, P. and Na, H.K., 2011, Molecular mechanism underlying anti-inflamatory effects of Maomao (Antidesma thwaitesianum Müll. Arg.) polyphenolics in human breast epithelial cells, Food Chem. 127: 1450-1458.
[20] Attia, G., El-Eraky, W., Hassanein, E., El-Gamal, M., Farahat, M. and Hernandez-Santana, A., 2017, Effect of dietary inclusion of a plant extract blend on broiler growth performance, nutrient digestibility, caecal microflora and intestinal histomorphology, Int. J. Poult. Sci. 16: 344-353.
[21] Apajalahti, J., Kettunen, A. and Graham, H., 2004, Characteristics of the gastrointestinal microbial communities, with special reference to the chicken, World’s Poult. Sci. J., 60: 223-232.
[22] Rolfe, R.D., 2000, The role of probiotic cultures in the control of gastrointestinal health, J. Nutr. 130: 396S-402S.
[23] สุทิสา เข็มผะกา, 2556, ผลการเสริมกรดอินทรีย์ต่อสุขภาพทางเดินอาหารและสมรรถนะการผลิตของลูกสุกรหย่านม, มหาวิทยาลัยสุรนารี, นครราชสีมา.
[24] ชัยวัฒน์ สุวรรณทัต, สุวรรณา กิจภาภรณ์, กฤษ อัคนาพร, พิภพ สดสี และนันทวัน บุญยะประภัศร, 2547, การใช้ขมิ้นชันเป็นสารต้านออกซิเดชั่นต่อสถานภาพภูมิคุ้มกันและสมรรถภาพการเจริญเติบโตของไก่เนื้อซึ่งอยู่ในสภาวะเครียด, น. 181, สมุนไพรไทย : โอกาสและทางเลือกในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์, โรงแรมสยามซิตี้, กรุงเทพฯ.
[25] Jain, N.C., 1993, Essential of Veterinary Hematology, Philadelphia.