An Investigation of the Effectiveness of Using Tracker Software to Enhance Academic Achievement in Simple Harmonic Motion among Grade 11 Students

Main Article Content

Artitaya Piamsup
Rattanawadee Boonaoi
Kanhathai Noicharoen
Sarayut Pantian

Abstract

This research aims to investigate the effectiveness of using tracker software to enhance the academic achievement of Grade 11 students in the topic of simple harmonic motion. A quasi-experimental research design was employed, utilizing a pre-test and post-test control group design. The sample was randomly divided into two groups: an experimental group (using tracker software) and a control group (using traditional lecture-based instruction). Both groups were subjected to a post-test to assess their academic achievement. Data were analyzed using a t-test to compare the statistically significant differences in academic achievement between the two groups. The results revealed that the percentage of mean scores between pre-test and post-test were 86.31 and 85.23, respectively. The post-test scores increased by 46.10%, with a mean pre-test score of 6.14 and a standard deviation of 4.01, while the mean post-test score was 11.39 and the standard deviation was 4.19. The t-test value was less than .05.

Article Details

How to Cite
Piamsup, A., Boonaoi, R., Noicharoen, K., & Pantian, S. (2024). An Investigation of the Effectiveness of Using Tracker Software to Enhance Academic Achievement in Simple Harmonic Motion among Grade 11 Students. Journal of Science and Technology CRRU, 3(1), 28–34. Retrieved from https://li01.tci-thaijo.org/index.php/jstcrru/article/view/262573
Section
Research article

References

รัตนาภรณ์ ริยะป่า. (2550). การศึกษาเจตคติต่อการเรียนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีระดับผลการเรียนต่างกัน. ลำพูน, โรงเรียนเทศบาลจามเทวี.

อัศวรัฐ นามะกันคำ. (2550). การเปรียบเทียบความเข้าใจเชิงแนวคิดเรื่องวงจรไฟฟ้ากระแสตรง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, บัณฑิตวิทยาลัย, สาขาวิชาการสอนฟิสิกส์.

Redish, E.F. (1994). Implication of cognitive studies for teaching physics. American journal of Physics, 62(6), 796-803.

McDermott, L. C. (1990). A perspective on teacher preparation in physics and other science: The need for special science course for teacher. American Journal of Physics, 58(8), 743-742.

ศุภวัฒน์ วิสิฐศิริกุล. (2560). การพัฒนาทักษะการเขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุด้วยชุดกระดานแม่เหล็ก. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 4 สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร 22 ธันวาคม 2560 (น. 652-657). กำแพงเพชร: ผู้แต่ง.

นันธิญา แก้ววิจิตร. (2563). ผลของการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ร่วมกับกลวิธีแก้ปัญหาเชิงตรรกะของเฮลเลอร์และเฮลเลอร์ต่อความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ เรื่อง ไฟฟ้าสถิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทร-วิโรฒ, ศูนย์วิทยาศาสตร์ศึกษา, สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา.

สุรัตน์ กาบทุม. (2562). การเคลื่อนที่ของฟองอากาศภายใต้อิทธิพลของความหนืดของของไหลและการสั่นสะเทือน สำหรับการสอนฟิสิกส์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, บัณฑิตวิทยาลัย, สาขาวิชาการสอนฟิสิกส์.

สุภาวรรณ สวนพลอย, วัฒนะ รัมมะเอ็ด และอารยา มุ่งชำนาญกิจ. (2558). การใช้โปรแกรมวิเคราะห์วิดีโอแทรคเกอร์ช่วยสอนวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบคาบเพื่อเพิ่มผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กรณีศึกษาของโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ปทุมธานี. การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยรังสิต ประจำปี 2558 (น. 1293-1299). ปทุมธานี: ผู้แต่ง.

จันจิรา มีภิปราย, พิชชาภา ทองเสวตร, วิศัลย์ศยา นาละคร และสรายุทธ์ พานเทียน. (2567). การศึกษาการชนกันของวัตถุในของเหลวด้วยโปรแกรมแทรคเกอร์สำหรับการสอนวิชาฟิสิกส์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี, 2(2), 143-153.