การตรวจวัดกรดแอสคอร์บิค ในระบบที่มีการรบกวนสัญญาณจากโดพามีน และกรดยูริค โดยใช้ แกรฟีนออกไซด์และกรดอะมิโนซีรีน

Main Article Content

ปิยะพงษ์ อะสะนิธิ
พัทธนันท์ อึงคณิตานนท์
ดร. สราวุธ ชื่นค้า
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชระ เลี้ยวเรียน

บทคัดย่อ

กรดแอสคอร์บิค (ascorbic acid, AA) เป็นสารอาหารที่จำเป็นซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ โดยทั่วไปในพลาสมาของมนุษย์ AA จะอยู่ร่วมกับโดพามีน (dopamine, DA) และกรดยูริค (uric acid, UA)  ศักย์เคมีไฟฟ้าของ AA DA และ UA มักจะซ้อนทับกันและไม่สามารถแยกแยะได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถตรวจวัดความเข้มข้นของ AA ได้อย่างแม่นยำในสารละลายที่มี DA และ UA งานวิจัยนี้จึงประยุกต์ใช้กรดอะมิโนซีรีน (serine, SER) และแกรฟีนออกไซด์ (graphene oxide, GO) สำหรับตรวจวัด AA ในขณะที่มีสัญญาณรบกวนของสารละลายผสม DA และ UA โดยเทคนิคดิฟเฟอเรนเซียลพัลส์โวลแทมเมตรี โดยขั้วไฟฟ้า GO/SPE เตรียมได้จากนำ GO เคลือบลงบนผิวหน้าของขั้วไฟฟ้าทำงาน (working electrode, WE) ของขั้วไฟฟ้าแบบพิมพ์สกรีน (screen-printed electrodes, SPE) ต่อมาเคลือบผิวหน้า GO/SPE ด้วย SER โดยการทำไซคลิกโวลแทมเมตรีของ GO/SPE ในสารละลาย SER จำนวน 10 รอบเพื่อให้ได้ SER-GO/SPE สมบัติทางกายภาพและทางเคมีไฟฟ้าของ GO/SPE และ SER-GO/SPE ถูกวิเคราะห์ด้วยกล้องอิเล็กตรอนแบบส่องกราด และเทคนิคอิเล็กโตรเคมีคอลอิมพีแดนซ์สเปกโตรสโคปี ตามลำดับ ผลโวลแทมเมตรีพบว่า SER-GO/SPE สามารถแยกสัญญาณศักย์ไฟฟ้าปฏิกิริยาออกซิเดชันของ AA DA และ UA ออกจากกันอย่างชัดเจนที่ตำแหน่ง 50.57 mV, 365.73 mV, และ 524.55 mV ตามลำดับ  และค่าช่วงความสัมพันธ์เชิงเส้น (linear range) ของการตรวจวัด AA ที่อยู่ในสารละลาย DA (50 µM) และ UA (50 µM) อยู่ในช่วง 0.08 mM - 90 mM ค่าขีดจำกัดการตรวจวัด (limit of detection, LOD) มีค่า 0.021 mM เทคนิคนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับการตรวจหากรดแอสคอร์บิคในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การวินิจฉัยทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอาหาร

Article Details

บท
บทความวิจัย