Macadamia Drying by Microwave Dryer combined with Hot Air
Main Article Content
บทคัดย่อ
The purpose of this research was to study the kinetics of macadamia drying by a microwave dryer combined with hot air. Macadamia nuts with shells were used in the experiment. The initial moisture content of the nut with shells in the range of 16-19% dry basis was dried until the final moisture content was less than 4% dry basis. Drying was done under different conditions to study the influences of hot air temperature (40, 50 and 60 degrees Celsius) and microwave power (300, 450 and 600 watts) on the appearance of the macadamias and energy consumption. The result indicated that the increase in microwave power could reduce moisture content of the macadamias more than the increase in the drying temperature. After drying and shelling, the microwave power of 300 watts at every temperature resulted in the most uniform color of the kernels. Considered in terms of energy consumption, the drying at 40 degrees Celsius combined with microwave power of 600 watts had the lowest energy consumption at 0.15 kW-h.
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาจลนพลศาสตร์ของการอบแห้งแมคคาเดเมียด้วยไมโครเวฟร่วมกับลมร้อน ในการทดลองจะใช้แมคคาเดเมียทั้งกะลา ซึ่งมีความชื้นเริ่มต้นอยู่ในช่วงร้อยละ16-19 มาตรฐานแห้ง อบแห้งจนเหลือความชื้นสุดท้ายต่ำกว่าร้อยละ 4 มาตรฐานแห้ง การอบแห้งดำเนินการที่สภาวะแตกต่างกัน เพื่อศึกษาอิทธิพลของลมร้อน (40 50 และ 60 องศาเซลเซียส) และกำลังไมโครเวฟ (300 450 และ 600 วัตต์) ต่อลักษณะปรากฏของแมคคาเดเมียและความสิ้นเปลืองพลังงาน ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า การเพิ่มขึ้นของกำลังไมโครเวฟสามารถลดความชื้นของแมคคาเดเมียได้มากกว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิการอบแห้ง หลังการอบแห้งและกะเทาะเปลือกพบว่าที่กำลังไมโครเวฟ 300 วัตต์ ในทุกๆ อุณหภูมิ เนื้อในของแมคคาเดเมียมีสีสม่าเสมอกันมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแง่พลังงาน พบว่า การทดลองที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส กำลังไมโครเวฟที่ 450 วัตต์ ใช้พลังงานต่ำสุด 0.17 กิโลวัตต์ชั่วโมง
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว