การฝังลายน้ำบนภาพพยานวัตถุดิจิทัลเพื่อรับรองความเป็นต้นฉบับ
คำสำคัญ:
ลายน้ำดิจิทัล, การปลอมแปลงภาพลายน้ำ, ภาพพยานวัตถุดิจิทัลบทคัดย่อ
ประเภทลายน้ำดิจิทัลแบบมองไม่เห็น (Invisible watermark) จะไม่สามารถมองเห็นลายน้ำดิจิทัลในภาพต้นฉบับ และไม่ทำให้ภาพต้นฉบับเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือเปลี่ยนลักษณะไปจากเดิมน้อยที่สุด ลายน้ำดิจิทัลแบบเปราะบาง (Fragile watermark) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของลายน้ำดิจิทัลแบบมองไม่เห็น มีวิธีที่มุ่งเน้นไปที่ความเปราะบางของลายน้ำดิจิทัล โดยลายน้ำดิจิทัลที่ถูกฝังไว้ในข้อมูลจะมีความไวต่อการเสียหายและการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อย วิธีการ ประเภทนี้จะมีความเหมาะสมที่จะใช้ในการสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลว่าเป็นของแท้ที่ไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใด ๆ มาก่อน ด้วยคุณสมบัติของการฝังลายน้ำแบบเปราะบาง (Fragile Watermarking) ซึ่งมีความเปราะบางของลายน้ำดิจิทัล จึงสามารถนำมาใช้ประยุกต์กับการฝังลายน้ำบนภาพถ่าย หรือภาพพยานวัตถุดิจิทัลเพื่อรับรองความเป็นต้นฉบับและตรวจสอบการแก้ไขดัดแปลงภาพพยานวัตถุดิจิทัลได้ โดยหากภาพพยานวัตถุดิจิทัลถูกแก้ไข ดัดแปลงหรือถูกโจมตีเพียงเล็กน้อย ลายน้ำบนภาพก็จะผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ ดั้งนั้น หากภาพพยานวัตถุดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ลายน้ำที่ถูกถอดออกมา ก็จะมีสภาพเสียหายไม่เหมือนลายน้ำต้นฉบับ จึงสามารถตรวจสอบการแก้ไขดัดแปลงจากลายน้ำที่ฝังอยู่ในภาพพยานวัตถุได้
เอกสารอ้างอิง
ส. ส. วราภรณ์ พรหมวิกร, "ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์: ปัญหา สาเหตุ และแนวทางการพัฒนาสําหรับประเทศไทย," วารสารเทคโนโลยีภาคใต้ ปีที่ 12 ฉบับที่ 2, 2019.
ว. พ. ธำรงรัตน์ อมรรักษา, "ภาพพิมพ์ลสยน้ำดิจิตอล : วิธีการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาสำหรับรูปภาพ," วารสารวิชการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีที่ 13 ฉบับที่ 2, 2546.
ด. อมรรักษา, "การทำภาพพิมพ์ลายน้ำดิจิทัล (Digital Watermarking)," วารสารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีที่ 9 , 2545.
น. หนูหอม, "การฝังลายน้ำอเนกประสงค์บนรูปภาพดิจิทัล เพื่อตรวจสอบรับรองความเป็นต้นฉบับ และพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ," 2553.
น. ตรีพลกุล, "การทำลายน้ำดิจิทัลบนเอกสารราชการ," 2553.
ด. โพธิโสโนทัย, "การใช้งานโปรแกรม MATLAB สำหรับวิเคราะห์ทางสถิติ," สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, 2557.
ส. ผลสมบูรณ์, "ลายน้ำดิจิตอลสำหรับรูปภาพที่คืนสภาพได้จากการหมุน การปรับขนาดและการเคลื่อนที่ โดยใช้ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียลเชิงซ้อน," จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , 2547.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องต้องผ่านการพิจารณาคุณภาพทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิประจำศาสตร์ (Peer Review) จำนวน 3 ท่าน ต่อ 1 บทความ
2. ข้อความหรือข้อคิดเห็นในวารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ฉบับนี้เป็นของผู้เขียนบทความ คณะผู้จัดวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา