อีโคไลและรูปแบบการดื้อต่อยาปฏิชีวนะภายใต้กระบวนการผลิตปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
คำสำคัญ:
ปุ๋ยอินทรีย์, กระบวนการหมักปุ๋ยอินทรีย์, เศษอาหาร, แบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบคทีเรียบ่งชี้ที่ก่อโรคและคุณสมบัติการดื้อยาปฏิชีวนะในกระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษอาหาร อีกทั้งศึกษาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าน่าจะมีอิทธิพลต่อการคงอยู่ของแบคทีเรียก่อโรค และคุณสมบัติการดื้อยาปฏิชีวนะภายใต้กระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ โดยใช้อีโคไลเป็นแบคทีเรียบ่งชี้ ใช้ระยะเวลาทดสอบ 8 สัปดาห์ ภายใต้ถังหมักขนาด 150 ลิตร ที่มีการเติมอากาศ ผลจากการศึกษาพบว่าภาพรวมการดื้อต่อยาปฏิชีวนะของอีโคไลในช่วงเริ่มต้นกระบวนการหมักมีค่า MAR index ของอีโคไลอยู่ที่ 0.312 เมื่อดำเนินการหมักปุ๋ยอินทรีย์ในช่วงแรกที่อุณหภูมิภายในถังปฏิกรณ์เพิ่มขึ้น (37.0-57.0 องศาเซลเซียส) อีโคไลที่สามารถอยู่รอดได้จะมีระดับการดื้อยาเพิ่มสูงขึ้น และค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลา โดยในสัปดาห์ที่ 8 ค่า MAR index ของอีโคไลลดลงมาที่ 0.214 ซึ่งอีโคไลส่วนใหญ่ที่เหลือรอดจัดเป็น
อีโคไลดื้อยา 1 กลุ่มยา (ร้อยละ 60.0) ในส่วนของน้ำชะจากปุ๋ยหมักช่วงแรกของการหมักพบค่า MAR index (0.405) สูงกว่าในตัวปุ๋ยหมัก และมีค่าลดระดับลงตามระยะเวลาเช่นกัน (สัปดาห์ที่ 7 มีค่า MAR index = 0.150) ดังนั้น ในการนำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารไปประยุกต์ใช้ ควรทิ้งช่วงเวลาให้ปุ๋ยหมักเกิดการหมักจนสมบูรณ์หรือมีการพักปุ๋ยหมักทิ้งไว้ เพื่อลดระดับความรุนแรงของการดื้อยาปฏิชีวนะในแบคทีเรียซึ่งอาจปนเปื้อนอยู่ อีกทั้งควรมีระบบจัดการน้ำชะปุ๋ยหมักที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียกลุ่มดังกล่าวสู่สิ่งแวดล้อม
Downloads
เผยแพร่แล้ว
Versions
- 19-02-2024 (2)
- 29-12-2023 (1)
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี
![Creative Commons License](http://i.creativecommons.org/l/by-nc-nd/4.0/88x31.png)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื่อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการดีพิมพ์ในวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 ก่อนเท่านั้น