การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

รายการตรวจสอบก่อนส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
  • วารสารมีการดำเนินการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์
  • กรุณาเลือกส่งไฟล์บทความเป็นไฟล์เวิร์ด(Word)
  • กรุณาเขียนบทความด้วย Template ของวารสารกำหนด
  • มีจริยธรรมในการตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการ (Publication Ethics)

คำแนะนำผู้แต่ง

1. การเตรียมต้นฉบับสำหรับบทความวิจัย.   Template     ตัวอย่างบทความ

 

บทนำ (บทความภาษาไทย)/ Introduction (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK ขนาด 18)

       บทนำ  ควรบอกความสำคัญหรือที่มาของปัญหาที่นำไปสู่การศึกษา วัตถุประสงค์ สมมติฐาน และอาจรวมถึงการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ที่เกี่ยวข้อง

  • หากมีการอธิบายคำศัพท์หรือคำศัพท์เฉพาะที่เป็นวงเล็บภาษาอังกฤษต่อท้าย ให้ขึ้นต้นคำแรกภาษาอังกฤษด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น เชื้อก่อโรค (Pathogen)
  • หากมี 2 คำเป็นต้นไป ให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะคำแรก เช่น ขนาดวงใส (Clear zone)
  • หากคำศัพท์นั้นมีตัวย่อให้ขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทุกคำ เช่น การตรวจนับจุลินทรีย์มาตรฐาน (Standard Plate Count; SPC)

 

วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ (บทความภาษาไทย)/ Materials and Methods (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK 18)

       ให้บอกวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และ/หรือ วิธีการวิจัย ซึ่งมีรายละเอียดการศึกษา การวิเคราะห์ และการดำเนินการที่กระชับและชัดเจน

 

ผลการวิจัย (บทความภาษาไทย)/Results (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK ขนาด 18)

       เสนอผลการทดลอง วิจัย อย่างชัดเจน ตรงประเด็น ควรมีรูปภาพ และ/หรือ ตารางประกอบ การอธิบายผลในตารางและรูปภาพต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน

*รูปภาพและตารางของบทความที่เป็นภาษาไทย ให้บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ

รูปแบบของการใส่รูปภาพ ตาราง และสมการ มีรูปแบบที่กำหนดดังนี้

         1. รูปแบบการใส่รูปภาพในเนื้อหาบทความ/ผลการวิจัย

              1.1 ชื่อรูปภาพให้ใช้คำว่า Figure

              1.2 รูปภาพที่แสดงต้องมีคำอธิบายอยู่ในเนื้อหาบทความที่มีการระบุถึงรูปภาพนั้น ๆ เป็นภาษาอังกฤษ

              1.3 คำอธิบายรูปภาพ ให้เขียนไว้ใต้รูปภาพแต่ละรูปภาพ โดยจัดรูปภาพไว้กึ่งกลางหน้ากระดาษ และคำอธิบายจัดชิดซ้ายหน้ากระดาษ เป็นภาษาอังกฤษ

              1.4 ไฟล์ของรูปภาพต้องเป็นไฟล์ที่มีนามสกุล .jpg เท่านั้น ความละเอียดไม่ตํ่ากว่า 300 dpi

              1.5 ลายเส้นที่ปรากฎบนรูปภาพต้องมีความคมชัด กรณีที่เป็นรูปกราฟ ต้องระบุชื่อแกนต่าง ๆ ให้ครบถ้วน

              1.6 กรณีที่มีรูปภาพย่อย ควรจัดให้รูปภาพย่อยทั้งหมดอยู่ในหน้าเดียวกัน ให้เขียนคำบรรยายใต้ชื่อรูปย่อยแต่ละรูป อธิบายรูปภาพย่อยเป็นภาษาอังกฤษและกำหนดลำดับของรูปภาพด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ

               1.7 รูปภาพที่ถ่ายเองหรือทำขึ้นเองไม่ต้องใส่ที่มา แต่หากนำมาจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ให้ระบุที่มาให้ชัดเจน

         2. รูปแบบการใส่ตารางในเนื้อหาบทความ/ผลการวิจัย

             2.1 ชื่อตารางให้ใช้คำว่า Table

             2.2 ตารางที่แสดงต้องมีคำอธิบายอยู่ในเนื้อหาบทความที่มีการระบุถึงตารางนั้น ๆ เป็นภาษาอังกฤษ

             2.3 คำอธิบายตาราง ให้เขียนไว้ด้านบนของตาราง โดยจัดคำอธิบายไว้ชิดขอบด้านซ้ายของหน้ากระดาษ และตารางอยู่กึ่งกลางหน้ากระดาษ เป็นภาษาอังกฤษ

             2.4 ขนาดของตารางต้องไม่ใหญ่เกินกว่าความกว้างของหน้ากระดาษที่กำหนดไว้

             2.5 หัวข้อและคำอธิบายต่าง ๆ ในตาราง ไม่ต้องใส่ตัวหนา

         3. รูปแบบการใส่สมการในเนื้อหาบทความ/ผลการวิจัย

             3.1 จัดตำแหน่งของสมการไว้กึ่งกลางหน้ากระดาษ

             3.2 แทรกสมการใช้รูปแบบ Cambria Math ให้จัดขนาด 10

            3.3 ระบุเลขลำดับสมการโดยเขียนไว้ในวงเล็บ จัดตำแหน่งเลขสมการชิดขวาของหน้ากระดาษ

             3.4 ทุกสมการต้องมีการอ้างถึงในเนื้อหา ให้ระบุเลขและเขียนไว้ในวงเล็บ เช่นเดียวกับที่ปรากฎในสมการ

             3.5 หากมีการกล่าวถึงตัวแปรต่าง ๆ จากสมการบนเนื้อหาบทความ เช่น  และ  ต้องใช้รูปแบบตัวอักษรเดียวกันกับที่ปรากฎในสมการ (กรณีนี้คือในสมการใช้ตัวอักษรเอียง ในเนื้อหาที่อ้างถึงตัวแปรจากสมการที่ (....) แบบอักษรต้องเป็นตัวเอียงด้วยเช่นกัน)

 

การอภิปรายผล (บทความภาษาไทย)/Discussion (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK ขนาด 18)

       เป็นการประเมิน การตีความ และการวิเคราะห์ในแง่มุมต่างๆ เป็นการอภิปรายผลการวิจัยเพื่อให้ผู้อ่านมีความเห็นคล้อยตาม เพื่อเปรียบเทียบกับผลการวิจัยของผู้อื่นควรมีการอ้างหลักการ แนวคิด หรือทฤษฎีมาสนับสนุนหรือหักล้างอย่างเป็นเหตุเป็นผล พร้อมทั้งเสนอแนวทางที่จะนำไปใช้ประโยชน์

*ผลการวิจัยและการอภิปรายผล (Results and Discussion) อาจนำมาเขียนตอนเดียวกันได้

 

บทสรุป (บทความภาษาไทย)/Conclusion (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK 18)

       สรุปประเด็น สาระสำคัญของการวิจัย และข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) และไม่ควรทำเป็นข้อ

 

กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี)/Acknowledgements (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK ขนาด 18)

       เพื่อแสดงความขอบคุณแก่ผู้ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย อาจมีหรือไม่มีก็ได้ หากมีควรระบุสั้นๆ ว่าได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและความช่วยเหลือจากใครหรือแหล่งใดบ้าง

 

เอกสารอ้างอิง (บทความภาษาไทย)/Reference (บทความภาษาอังกฤษ) (TH SarabunPSK ขนาด 18)

    เขียนรายการอ้างอิงท้ายบทความตามหลักเกณฑ์ APA “Publication Manual of the American Psychology Association” (7th Edition) ดังแอกสารแนบ โดยเปลี่ยนแหล่งอ้างอิงทั้งหมดให้เป็นภาษาอังกฤษ และหากเป็นวารสารในประเทศไทย เมื่อเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดแล้วให้วงเล็บต่อท้ายการอ้างอิงว่า (In Thai)

 

2. รูปแบบการพิมพ์บทความวิจัย

       2.1   การตั้งค่าหน้ากระดาษ

  • ระยะขอบ ขอบบน (Top Margin) ขอบล่าง (Bottom Margin) 2.54 ซม.

            ขอบขวา (Right Margin) 2.54 ซม.

            ขอบซ้าย (Left Margin) 2.54 ซม.

  • รูปแบบตัวอักษร ใช้ TH SarabunPSK ตลอดทั้งบทความ ขนาด 14 ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
  • การย่อหน้า ส่วนปกและส่วนเนื้อหา   ย่อ 5 ตัวอักษร พิมพ์ตัวที่ 6 (หรือกำหนดแท็บ 0.5 นิ้ว)
  • จำนวนหน้า 8 - 15 หน้า
  • ชื่อบทความ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนา
  • ชื่อผู้เขียน ภาษาไทย ขนาดตัวอักษร 16 จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ
  • ตัวเลขยก (บนนามสกุล) ขนาดตัวอักษรเท่ากับชื่อและนามสกุล 16
  • ที่อยู่ ภาษาไทย ขนาดตัวอักษร 12
  • ชื่อบทคัดย่อ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนาและจัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ
  • เนื้อหาบทคัดย่อ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 14
  • ชื่อคำสำคัญ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 14 ตัวหนา
  • คำสำคัญ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 3 - 5 คำ ขนาดตัวอักษร 14
  • ชื่อหัวเรื่องใหญ่ ขนาด ตัวอักษร 18 หนา และ จัดชิดซ้าย ประกอบด้วย
  1. บทนำ/Introduction
  2. วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ/Materials and Methods หรือ  วิธีดำเนินการวิจัย/Research Methodology
  3. ผลการวิจัยและอภิปรายผล/Results and Discussion
  4. บทสรุป/Conclusion
  5. กิตติกรรมประกาศ/Acknowledgements
  6. เอกสารอ้างอิง/Reference

 

เกณฑ์การประเมินบทความ

กองบรรณาธิการจะพิจารณาบทความเบื้องต้นเกี่ยวกับความถูกต้องของรูปแบบทั่วไป ถ้าไม่ผ่านการพิจารณา จะส่งกลับเพื่อทำการแก้ไข ถ้าผ่านจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกและเมื่อบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ ผู้เขียนจะได้รับหนังสือรับรองการตีพิมพ์บทความ

จริยธรรมในการตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการ (Publication Ethics)

  • บทบาทและหน้าที่ของผู้เขียนบทความ (Author Ethical Responsibilities)
  1. บทความที่จะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์จะต้องเป็นบทความที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อนและไม่ส่งต้นฉบับบทความซ้ำซ้อนกับวารสารอื่น
  2. เนื้อหาของบทความจะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของวารสาร
  3. บทความต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น
  4. ผู้เขียนต้องอ้างอิงผลงานของผู้อื่น หากมีการนำผลงานเหล่านั้นมาใช้ในบทความของตัวเอง เช่น ภาพ ตาราง เป็นต้น
  5. ผู้เขียนต้องตรวจสอบความถูกต้องของรายการเอกสารอ้างอิง ทั้งในแง่ของรูปแบบและเนื้อหา
  6. ผู้เขียนบทความจะต้องปรับบทความตามรูปแบบและขนาดตัวอักษรตามแบบฟอร์ม (template) ของวารสาร
  7. ผู้เขียนที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคน ต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในการดำเนินการบทความจริง
  8. ผู้เขียนไม่ควรนำเอกสารวิชาการที่ไม่ได้อ่านมาอ้างอิง หรือใส่ไว้ในเอกสารอ้างอิง และควรอ้างอิงเอกสารเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม ไม่ควรอ้างอิงเอกสารที่มากจนเกินไป
  9. การกล่าวขอบคุณผู้มีส่วนช่วยเหลือในกิตติกรรมประกาศนั้น หากสามารถทำได้ผู้เขียนบทความควรขออนุญาตจากผู้ที่ผู้เขียนประสงค์จะขอบคุณเสียก่อน
  10. ในบทความผู้เขียนจะต้องไม่รายงานข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อมูลเท็จ หรือการปลอมแปลง บิดเบือน รวมไปถึงการตกแต่ง หรือ เลือกแสดงข้อมูลเฉพาะที่สอดคล้องกับข้อสรุป
  • บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการวารสาร (Editor Roles and Responsibility)
  1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาคุณภาพของบทความ เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารที่ตนรับผิดชอบ และไม่ตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาแล้ว
  2. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียน และผู้ประเมินบทความแก่บุคคลอื่นๆ
  3. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีระเบียบวิธีวิจัยที่ถูกต้อง และให้ผลที่น่าเชื่อถือ โดยนำผลของการวิจัยมาเป็นตัวชี้นำว่า สมควรตีพิมพ์เผยแพร่หรือไม่
  4. บรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนและผู้ประเมิน
  5. บรรณาธิการต้องมีการตรวจสอบบทความในด้านการคัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) อย่างจริงจัง
  6. เมื่อบรรณาธิการตรวจพบการคัดลอกผลงานของผู้อื่น จะต้องระงับการประเมินและติดต่อผู้เขียน เพื่อพิจารณาตอบรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์การตีพิมพ์
  7. หากบรรณาธิการตรวจพบว่า บทความมีการลอกเลียนบทความอื่นโดยมิชอบ หรือมีการปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งสมควรถูกถอดถอน แต่ผู้เขียนปฏิเสธที่จะถอนบทความ บรรณาธิการสามารถดำเนินการถอนบทความได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เขียน ซึ่งถือเป็นสิทธิและความรับผิดชอบต่อบทความของบรรณาธิการ

บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Reviewer Roles and Responsibilities)

  1. ผู้ประเมินบทความต้องไม่เปิดเผยข้อมูลในบทความแก่บุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ
  2. หากผู้ประเมินบทความมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนผู้ประเมินบทความจะต้องแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้นๆ
  3. ผู้ประเมินบทความควรรับประเมินบทความเฉพาะสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ และหากมีส่วนใดของบทความที่มีความเหมือนกัน หรือซ้ำซ้อนกับผลงานชิ้นอื่นๆ ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบ

นโยบายส่วนบุคคล

ชื่อและอีเมล์ผู้แต่งที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้เฉพาะวัตถุประสงค์การตีพิมพ์ในวารสารนี้เท่านั้น และจะไม่เผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์อื่นหรือเผยแพร่แก่บุคคลอื่น