การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

รายการตรวจสอบก่อนส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
  • วารสารมีการดำเนินการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์
  • กรุณาเลือกส่งไฟล์บทความเป็นไฟล์เวิร์ด(Word)
  • กรุณาเขียนบทความด้วย Template ของวารสารกำหนด
  • มีจริยธรรมในการตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการ (Publication Ethics)

คำแนะนำผู้แต่ง

1. การเตรียมต้นฉบับสำหรับบทความวิจัย.   Template     ตัวอย่างบทความ

ก.   ส่วนปก

  1. ชื่อบทความ (Title) ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ควรกะทัดรัด ไม่ยาวเกินไป ถ้าบทความเป็นภาษาไทย ชื่อเรื่องต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  2. ชื่อผู้เขียน (Authors) ชื่อเต็ม – นามสกุลเต็ม ของผู้เขียนทุกคน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และให้ใส่หมายเลขพร้อมเครื่องหมายดอกจันทร์กำกับด้วย
  3. ที่อยู่ของผู้เขียนทุกคนให้ใส่ที่อยู่ให้ละเอียด ระบุ สังกัด (คณะ//มหาวิทยาลัย//จังหวัด) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตามแบบฟอร์มกำหนด พร้อมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ และ E-mail address ที่สามารถติดต่อได้ (ดูตัวอย่าง Template​)
  4. ตัวเลขยก ให้เขียนไว้บนนามสกุล เพื่อระบุที่อยู่ของผู้เขียน
  5. บทคัดย่อ (Abstract) ควรสั้น ตรงประเด็น ครอบคลุมสาระสำคัญของการศึกษา ได้แก่ วัตถุประสงค์ วิธีการ ผลการวิจารณ์ เป็นต้น ถ้าบทความเป็นภาษาไทยจะต้องมีบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยให้ภาษาไทยขึ้นก่อน และไม่ควรเกิน 300 คำ
  6. คำสำคัญ (Keywords) ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เป็นการกำหนดคำสำคัญที่สามารถไปใช้เป็นคำสืบค้นในระบบฐานข้อมูลไม่เกิน 5 คำ

หมายเหตุ: หากเนื้อหาส่วนปกเกินให้นำบทคัดย่อภาษาอังกฤษขี้นหน้าถัดไป

ข. ส่วนเนื้อหา

  1. บทนำ/Introduction เพื่ออธิบายถึงความสำคัญของปัญหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัย รวมถึงการตรวจเอกสาร โดย บทนำ ควรบอกความสำคัญหรือที่มาของปัญหาที่นำไปสู่การศึกษา วัตถุประสงค์ สมมติฐาน และอาจรวมถึงการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ที่เกี่ยวข้อง หากมีการอธิบายคำศัพท์หรือคำศัพท์เฉพาะที่เป็นวงเล็บภาษาอังกฤษต่อท้าย ให้ขึ้นต้นคำแรกภาษาอังกฤษด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น เชื้อก่อโรค (Pathogen) หากมี 2 คำเป็นต้นไป ให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะคำแรก เช่น ขนาดวงใส (Clear zone) และถ้าคำศัพท์นั้นมีตัวย่อให้ขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทุกคำ เช่น การตรวจนับจุลินทรีย์มาตรฐาน (Standard Plate Count; SPC)
  2. วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ/Materials and Methods อธิบายเครื่องมือและวิธีการดำเนินการวิจัยให้ชัดเจน
  3. ผลการวิจัย/Results เสนอผลการทดลอง วิจัย อย่างชัดเจน ตรงประเด็น ควรมีรูปภาพ และ/หรือ ตารางประกอบ การอธิบายผลในตารางและรูปภาพต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน รูปภาพและตารางของบทความที่เป็นภาษาไทย ให้บรรยายเป็นภาษาไทย รูปภาพและตารางของบทความที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ

- รูปภาพและกราฟ โดยให้มี 1 รูป/กราฟ ต่อ 1 หน้า บันทึกเป็นไฟล์ที่มีนามสกุล JPEGs ที่มีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 300 dpi เท่านั้น ถ้าเป็นภาพถ่ายกรุณาส่งภาพต้นฉบับ ทางวารสารจะไม่รับภาพประกอบบทความที่เป็นการถ่ายสำเนาจากต้นฉบับและภาพแสกน เนื่องจากจะมีผลต่อคุณภาพในการพิมพ์ และในกรณีที่เป็นรูปลายเส้นให้วาดโดยใช้หมึกสีดำที่มีเส้นคมชัดเจน หมายเลขรูปภาพและกราฟให้เป็นเลขอารบิก และอยู่ด้านล่างของรูปภาพและกราฟ

- ตารางโดยให้มี 1 ตาราง ต่อ 1 หน้า หมายเลขตารางให้เป็นเลขอารบิก และอยู่ด้านบนของรูปภาพและกราฟ

  1. การอภิปรายผล/Discussion เป็นการอภิปรายผลการวิจัย เพื่อให้ผู้อ่านมีความเห็นคล้อยตาม เพื่อเปรียบเทียบกับผลการวิจัยของผู้อื่น เพื่อเสนอแนวทางที่จะใช้ประโยชน์ ผลการวิจัยและการอภิปรายผล (Results and Discussion) อาจนำมาเขียนตอนเดียวกันได้
  2. บทสรุป/Conclusion สรุปประเด็นและสาระสำคัญของการวิจัย
  3. กิตติกรรมประกาศ/Acknowledgements เพื่อแสดงความขอบคุณแก่ผู้ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย อาจมีหรือไม่มีก็ได้
  4. เอกสารอ้างอิง/Reference เป็นรายชื่อเอกสารที่ใช้เป็นหลักในการค้นคว้าวิจัยที่ได้รับการตรวจสอบเพื่อนำมาเตรียมรายงาน และ มีการอ้างอิงถึงเฉพาะเอกสารที่ปรากฏในบทความเท่านั้น การอ้างอิงให้จัดเรียงตามลำดับตัวอักษร นำโดยกลุ่มเอกสารภาษาไทย โดยให้ยึดถือรูปแบบการเขียนเอกสารอ้างอิง ดังต่อไปนี้

 การอ้างเอกสารในเนื้อเรื่องของบทความ (In-text Citations)

การอ้างอิงเอกสารในเนื้อเรื่องใช้ ระบบนามปี (Name-year System) เท่านั้น โดยเริ่มจากชื่อผู้แต่งแล้วตามด้วยปีที่เผยแพร่เอกสารนั้น ถ้าเป็นภาษาอังกฤษให้ใช้เพียงชื่อสกุลนำหน้า แล้วตามด้วยปีที่เผยแพร่เอกสารถ้าเป็นเอกสารภาษาไทยให้ใช้ชื่อต้นนำหน้า และปีที่เผยแพร่เอกสาร ในกรณีที่ผู้แต่ง 2 คนให้ใส่ชื่อครบทุกคน และถ้ามากกว่า 2 คน ให้ใส่เฉพาะชื่อคนแรกแล้วตามด้วย “และคณะ” (ถ้าเป็นภาษาอังกฤษใช้ “et al.,”)

การเขียนรายการเอกสารอ้างอิง (Reference list) จากรูปแบบ APA 7th

 

2. รูปแบบการพิมพ์บทความวิจัย

       2.1   การตั้งค่าหน้ากระดาษ

  • ระยะขอบ ขอบบน (Top Margin) ขอบล่าง (Bottom Margin) 2.54 ซม.

            ขอบขวา (Right Margin) 2.54 ซม.

            ขอบซ้าย (Left Margin) 2.54 ซม.

  • รูปแบบตัวอักษร ใช้ TH SarabunPSK ตลอดทั้งบทความ ขนาด 14 ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
  • การย่อหน้า ส่วนปกและส่วนเนื้อหา   ย่อ 5 ตัวอักษร พิมพ์ตัวที่ 6 (หรือกำหนดแท็บ 0.5 นิ้ว)
  • จำนวนหน้า 8 - 15 หน้า
  • ชื่อบทความ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนา
  • ชื่อผู้เขียน ภาษาไทย ขนาดตัวอักษร 16 จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ
  • ตัวเลขยก (บนนามสกุล) ขนาดตัวอักษรเท่ากับชื่อและนามสกุล 16
  • ที่อยู่ ภาษาไทย ขนาดตัวอักษร 12
  • ชื่อบทคัดย่อ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนาและจัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ
  • เนื้อหาบทคัดย่อ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 14
  • ชื่อคำสำคัญ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 14 ตัวหนา
  • คำสำคัญ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 3 - 5 คำ ขนาดตัวอักษร 14
  • ชื่อหัวเรื่องใหญ่ ขนาด ตัวอักษร 18 หนา และ จัดชิดซ้าย ประกอบด้วย
  1. บทนำ/Introduction
  2. วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ/Materials and Methods หรือ  วิธีดำเนินการวิจัย/Research Methodology
  3. ผลการวิจัยและอภิปรายผล/Results and Discussion
  4. บทสรุป/Conclusion
  5. กิตติกรรมประกาศ/Acknowledgements
  6. เอกสารอ้างอิง/Reference

-   ชื่อหัวเรื่องรอง  ขนาดตัวอักษร 16 ตัวหนา และจัดชิดซ้าย

  • ชื่อหัวเรื่องย่อย ขนาดตัวอักษร 14 ตัวหนา
  • เนื้อหาบทความ ขนาดตัวอักษร 14
  • ชื่อตาราง ตัวอักษร 14 หนา วางชิดซ้ายด้านบนของตาราง เนื้อหาของตาราง ตัวอักษร ขนาด 14 หนา
  • ชื่อรูปภาพ/กราฟ ตัวอักษร 14 หนา วางชิดซ้ายด้านล่างของภาพ เนื้อหาของภาพ ตัวอักษร ขนาด 14

 เกณฑ์การประเมินบทความ

กองบรรณาธิการจะพิจารณาบทความเบื้องต้นเกี่ยวกับความถูกต้องของรูปแบบทั่วไป ถ้าไม่ผ่านการพิจารณา จะส่งกลับเพื่อทำการแก้ไข ถ้าผ่านจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกและเมื่อบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ ผู้เขียนจะได้รับหนังสือรับรองการตีพิมพ์บทความ

จริยธรรมในการตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการ (Publication Ethics)

  • บทบาทและหน้าที่ของผู้เขียนบทความ (Author Ethical Responsibilities)
  1. บทความที่จะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์จะต้องเป็นบทความที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อนและไม่ส่งต้นฉบับบทความซ้ำซ้อนกับวารสารอื่น
  2. เนื้อหาของบทความจะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของวารสาร
  3. บทความต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น
  4. ผู้เขียนต้องอ้างอิงผลงานของผู้อื่น หากมีการนำผลงานเหล่านั้นมาใช้ในบทความของตัวเอง เช่น ภาพ ตาราง เป็นต้น
  5. ผู้เขียนต้องตรวจสอบความถูกต้องของรายการเอกสารอ้างอิง ทั้งในแง่ของรูปแบบและเนื้อหา
  6. ผู้เขียนบทความจะต้องปรับบทความตามรูปแบบและขนาดตัวอักษรตามแบบฟอร์ม (template) ของวารสาร
  7. ผู้เขียนที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคน ต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในการดำเนินการบทความจริง
  8. ผู้เขียนไม่ควรนำเอกสารวิชาการที่ไม่ได้อ่านมาอ้างอิง หรือใส่ไว้ในเอกสารอ้างอิง และควรอ้างอิงเอกสารเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม ไม่ควรอ้างอิงเอกสารที่มากจนเกินไป
  9. การกล่าวขอบคุณผู้มีส่วนช่วยเหลือในกิตติกรรมประกาศนั้น หากสามารถทำได้ผู้เขียนบทความควรขออนุญาตจากผู้ที่ผู้เขียนประสงค์จะขอบคุณเสียก่อน
  10. ในบทความผู้เขียนจะต้องไม่รายงานข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อมูลเท็จ หรือการปลอมแปลง บิดเบือน รวมไปถึงการตกแต่ง หรือ เลือกแสดงข้อมูลเฉพาะที่สอดคล้องกับข้อสรุป
  • บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการวารสาร (Editor Roles and Responsibility)
  1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาคุณภาพของบทความ เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารที่ตนรับผิดชอบ และไม่ตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาแล้ว
  2. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียน และผู้ประเมินบทความแก่บุคคลอื่นๆ
  3. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีระเบียบวิธีวิจัยที่ถูกต้อง และให้ผลที่น่าเชื่อถือ โดยนำผลของการวิจัยมาเป็นตัวชี้นำว่า สมควรตีพิมพ์เผยแพร่หรือไม่
  4. บรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนและผู้ประเมิน
  5. บรรณาธิการต้องมีการตรวจสอบบทความในด้านการคัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) อย่างจริงจัง
  6. เมื่อบรรณาธิการตรวจพบการคัดลอกผลงานของผู้อื่น จะต้องระงับการประเมินและติดต่อผู้เขียน เพื่อพิจารณาตอบรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์การตีพิมพ์
  7. หากบรรณาธิการตรวจพบว่า บทความมีการลอกเลียนบทความอื่นโดยมิชอบ หรือมีการปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งสมควรถูกถอดถอน แต่ผู้เขียนปฏิเสธที่จะถอนบทความ บรรณาธิการสามารถดำเนินการถอนบทความได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เขียน ซึ่งถือเป็นสิทธิและความรับผิดชอบต่อบทความของบรรณาธิการ

บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Reviewer Roles and Responsibilities)

  1. ผู้ประเมินบทความต้องไม่เปิดเผยข้อมูลในบทความแก่บุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ
  2. หากผู้ประเมินบทความมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนผู้ประเมินบทความจะต้องแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้นๆ
  3. ผู้ประเมินบทความควรรับประเมินบทความเฉพาะสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ และหากมีส่วนใดของบทความที่มีความเหมือนกัน หรือซ้ำซ้อนกับผลงานชิ้นอื่นๆ ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบ

นโยบายส่วนบุคคล

ชื่อและอีเมล์ผู้แต่งที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้เฉพาะวัตถุประสงค์การตีพิมพ์ในวารสารนี้เท่านั้น และจะไม่เผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์อื่นหรือเผยแพร่แก่บุคคลอื่น