วารสารเกษตรพระวรุณเป็นวารสารวิชาการด้านเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ของคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารผลงานวิชาการตลอดจนองค์ความรู้ที่ค้นพบใหม่ๆ  ระหว่างนักวิชาการ  นักวิจัย และสังคมภายนอก ดังนั้นเพื่อให้การสื่อสารทางวิชาการเป็นไปอย่างถูกต้อง มีคุณภาพ โปร่งใส และสอดคล้องกับมาตรฐานการตีพิมพ์ระดับนานาชาติ จึงได้กำหนดแนวทาง วิธีปฏิบัติที่ดี และจริยธรรมของการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิชาการไว้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 ส่วนในลักษณะบทบาทหน้าของแต่ละส่วน คือ 1. ผู้นิพนธ์ (Duties of Authors)  2. บรรณาธิการวารสาร (Duties of Editors)  และ 3. ผู้ประเมินบทความ (Duties of Reviewers) ดังนี้  

ส่วนที่ 1: บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์ (Duties of Authors)

            1.1 ต้องรับรองว่าผลงานที่ส่งมานั้นเป็นผลงานใหม่และไม่เคยตีพิมพ์วารสารใดมาก่อน

            1.2 ในการรายงานข้อความรู้ที่เกิดขึ้นจากการทำวิจัยนั้น ผู้นิพนธ์ต้องไม่บิดเบือนข้อมูลหรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ

            1.3 ผลงานของผู้อื่นที่นำมาใช้ในผลงานของตนเองต้องมีการอ้างอิง  รวมทั้งจัดทำรายการอ้างอิงไว้ท้ายบทความตามแบบฟอร์มที่วารสารกำหนดไว้

            1.4 ควรศึกษา "คำแนะนำผู้เขียน" ให้เข้าใจทั้งนี้เพื่อเขียนบทความทุกประเภทให้ถูกต้องตามรูปแบบที่วารสารกำหนดไว้

           1.5 ทุกรายชื่อที่ปรากฏในบทความต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในการดำเนินการวิจัยหรือทำบทความวิชาการจริง

           1.6 งานวิจัยที่มีแหล่งทุนสนับสนุนต้องระบุที่บทความให้ชัดเจน

           1.7 ต้องระบุผลประโยชน์ทับซ้อน (หากมี)

ส่วนที่ 2: บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการวารสาร (Duties of Editors)

           2.1 รับผิดชอบพิจารณาคุณภาพของบทความทุกบทความที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร

           2.2 ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้นิพนธ์ และผู้ประเมินบทความ แก่บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ

          2.3 ตัดสินใจคัดเลือกบทความมาตีพิมพ์หลังจากผ่านกระบวนการประเมินบทความแล้วโดยพิจารณาจากความสำคัญ ความใหม่  ความชัดเจน  และความสอดคล้องของเนื้อหากับนโยบายของวารสารเป็นสำคัญ

          2.4 ไม่รับตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาแล้ว และบทความที่บรรณาธิการวารสารมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์   ผู้ประเมิน  และทีมผู้บริหารวารสาร

          2.5 ไม่ปฏิเสธการตีพิมพ์บทความเพียงเพราะความสงสัยหรือไม่แน่ใจจนกว่าจะมีหลักฐานมาพิสูจน์ข้อสงสัยนั้น ๆ ก่อน

          2.6 มีการตรวจสอบบทความในด้าน การคัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) อย่างจริงจังโดยใช้โปรแกรมที่เชื่อถือได้ เพื่อให้แน่ใจว่าบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารไม่มีการคัดลอกผลงานของผู้อื่น

         2.7 หากตรวจพบการคัดลอกผลงานของผู้อื่น ในกระบวนการประเมินบทความ บรรณาธิการจะหยุดกระบวนการประเมิน และติดต่อผู้นิพนธ์หลักทันทีเพื่อขอคำชี้แจง เพื่อประกอบการ "ตอบรับ" หรือ "ปฏิเสธ" การตีพิมพ์บทความนั้น ๆ

ส่วนทื่ 3: บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Duties of Reviewers)

           3.1 ในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ ผู้ประเมินจะต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลบางส่วนหรือทุกส่วนของบทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณาให้แก่บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง (Confidentiality)

          3.2 หลังจากได้รับบทความจากบรรณาธิการวารสาร หากผู้ประเมินบทความตระหนักว่าตนเองอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ ตัวอย่าง เช่น เป็นผู้ร่วมโครงการ หรือรู้จักผู้นิพนธ์เป็นการส่วนตัวมาก่อน หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ   ที่อาจทำให้เกิดความลำเอียงหรือไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอย่างอิสระได้ ผู้ประเมินบทความควรแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้น ๆ ทันที

         3.3 ผู้ประเมินบทความ ควรประเมินบทความในสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง โดยพิจารณาความสำคัญของเนื้อหาในบทความที่จะมีต่อสาขาวิชานั้น ๆ คุณภาพของการวิเคราะห์และความเข้มขันของผลงาน ไม่ควรใช้ความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่มีข้อมูลรองรับมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินบทความวิจัยและวิชาการของวารสาร

         3.4 หากผู้นิพนธ์ไม่ได้อ้างถึงผลงานวิจัยที่สำคัญ ๆ และสอดคล้องกับบทความที่กำลังประเมิน ในการประเมินบทความนั้น ๆ ผู้ประเมินควรระบุไว้ให้ นอกจากนี้หากมีส่วนใดของบทความที่มีความเหมือนหรือซ้ำช้อนกับผลงานชิ้นอื่น ๆ ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบด้วยทันที