ฤทธิ์ต้านเบาหวานและการบรรเทาความวิตกกังวลและความเครียดของสารสกัดเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย Effects of Ethanol Seed Extract from Mucuna pruriens L. on Relieving Activity on Anxiety and Stress, and Antidiabetic Activity

Main Article Content

อรทัย สารกุล
มานิตา โชรัมย์
ชูศรี ตลับมุข
กฤติยา ทิสยากร
อรทัย สารกุล

บทคัดย่อ

 


หมามุ่ยอินเดีย Mucuna pruriens var. utilis (Wall. ex Wight) Baker ex Burck เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้เป็นยาพื้นบ้าน มาเป็นเวลานานในการรักษาโรคต่างๆ เช่น มาลาเรีย มะเร็ง เบาหวาน พาร์คินสัน วิตกกังวล รวมทั้งเสริมสร้างสมรรถภาพ ทางเพศ วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี ฤทธิ์บรรเทาความวิตกกังวลและความเครียด และ ฤทธิ์ต้านเบาหวานของสารสกัดเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย (MPSE) ที่สกัดด้วยเอทานอล 95 เปอร์เซ็นต์ การวิเคราะห์องค์ประกอบ ทางเคมีของ MPSE ด้วยเครื่อง GC-MS พบสารทั้งหมด 48 ชนิด เป็นสารที่มีปริมาณมาก 9 ชนิด ได้แก่ ได้แก่ 5-Hydroxymethyl furfural, Dodecanamide, N-(2-hydroxyethyl)-, 9,12-Octadecadienoic acid, (Z,Z)-, n-Hexadecanoic acid, endo-Borneol, 9,12-Octadecadienoic acid ethyl ester, Hexadecanoic acid ethyl ester, Octadecanoic acid และ 9-Octadecenoic acid และสารที่มีปริมาณน้อย 39 ชนิด จากการประเมินด้วยวิธี Light/dark test, Hole board และ Force plate actimeter พบว่า MPSE แสดงผลในการลดอาการวิตกกังวลในหนูถีบจักร โดยเฉพาะหนูกลุ่มที่ได้รับ MPSE ขนาด 400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม น้ำ หนักตัว มีจำ นวนครั้งในการเดินเข้าไปในฝั่งมืดและฝั่งสว่าง (Number of entries in chamber) จำ นวนครั้งในการยืนด้วย เท้าหลังในฝั่งมืด (Number of rear in dark chamber) การใช้เวลาในฝั่งสว่าง (Time spent in light chamber) และจำ นวนครั้ง ของการมุดรูของแผ่นเจาะรู (Hole board) มากกว่าหนูกลุ่มควบคุม แต่มีระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเข้าไปในฝั่งสว่าง (Latency to enter the light chamber) ต่ำ กว่าหนูกลุ่มควบคุม หนูกลุ่มที่ได้รับ MPSE ยังมีระยะเวลาในการหลับนานกว่าหนูกลุ่มควบคุม นอกจากนี้ MPSE ยังสามารถยับยั้งการทำ งานของเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดสได้ โดยมีค่า IC50 0.38±0.70 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร และยับยั้งได้ดีกว่ายาอะคาร์โบส ที่มีค่า IC50 1.57±0.23 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ผลการทดลอง ชี้ให้เห็นว่า สารสกัดเมล็ดหมามุ่ย อินเดีย มีฤทธิ์บรรเทาความวิตกกังวลและความเครียด และต้านเบาหวาน โดยมีสาร endo-Borneol และ Octadecanoic acid เป็นสารออกฤทธิ์บรรเทาความวิตกกังวลและความเครียด และสาร 9,12-Octadecadienoic acid, (Z,Z)- และ n-Hexadecanoic acid เป็นสารออกฤทธิ์ต้านเบาหวาน จึงเป็นการยืนยันการใช้หมามุ่ยอินเดียเป็นยาพื้นบ้านในการบรรเทาความวิตกกังวลและ ความเครียด และบำ บัดโรคเบาหวาน

Article Details

บท
Original Articles

References

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข,. (2541). คู่มือการดำเนินงานในคลินิกคลายเครียด. (พิมพ์ครั้งที่ 2). (ม.ป.ท.)
เกษม ตันติผลาชีวะ. (2543). การนอนหลับ และวงจรการนอนหลับ: ใกล้หมอ. (ม.ป.ท.)
กันยารัตน์ ศึกษากิจ. (2557). ฤทธิ์ทางชีวภาพของน้ำมันและสารสกัดจากดอกกานพลูในการบรรเทาอาการปวด
ไมเกรนและอาการข้างเคียงสัตว์ทดลอง. (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
จุฑารัตน์ พิริยะเบญจวัฒน์. (2562). ยาดมสมุนไพรและแนวคิดการสร้างนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยาดมสมุนไพร. วารสาร
วิทยาลัยดุสิตธานี. 13(2): pp. 479-81.

เจนจิรา เกียรติสินทรัพย์, สาริณี โต๊ะทอง และ ทานตะวัน แย้มบุญเรือง.(2562). ผลของการใช้โปรแกรมจัดการ
ความเครียดต่อความสามารถจัดการความเครียดและระดับความเครียดของผู้สูงอายุ ในเขตอำเภอเมือง
นนทบุรี. วารสารเกื้อการุณ, 67-77.
ชลธิชา แย้มมา และ พีรพนธ์ ลือบุญธวัชชัย. (2556). ปัญหาการนอนหลับ ความเหนื่อยล้า และประสิทธิภาพในการ
ปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศ
ไทย.;58(2):183-196.
ดารัสนี โพธารส. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพการนอนหลับของนิสิตพยาบาล. วารสารคณะพยาบาล
ศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา: 25-36.
พราว ศุภจริยาวัตร, เดชมนตรี วจีสุนทร, บุญญาณี ศุภผล, ธนวัฒน์ ทองจีน, บรรจง ชาวไร่ และพรชัย สินเจริญโภไคย.
(2561). การศึกษาพิษเรื้อรังของสารสกัดเมล็ดหมามุ่ยอินเดียในสัตว์ทดลอง. วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชฎัชนครสวรรค์. 10(12): หน้า 24-26.
ประชากรผู้สูงอายุเข้าถึงได้จาก: https://www.thaitgri.org/?p=39457
ปิยานี รัตนชำนอง. (2562). ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะเขือพวง. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย
อุบลราชธานี. 21(2): หน้า 124-27.
ระพีพันธุ์ ศิริเดช, วัลวิภา เสืออุดม, วิภาพรรณ ชนะภักดิ์ และ นารีลักษณ์ ตั้งศรีศักดา. (2560). ฤทธิ์ทางชีวภาพของ
หมามุ่ย. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. 3(2): pp. 103-308.
วารุณี ธนะแพสย์. (2549). การศึกษาวิธีการสกัดปริมาณและวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี ในน้ำมันเมล็ดเสาวรส เพื่อ
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทลบริ้วรอย ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดเสาวรส. สถาบันวิจัยและ
พัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.
สมภพ เรืองตระกูล. (2550). ความผิดปกติของการนอนหลับการประเมินและการรักษา. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์
อารียา สุฉันทบุตร, ชูศรี ตลับมุข และ สนอง จอมเกาะ. (2551). ผลของผงและสารสกัดจากใบชะพลูและลำต้น
บอระเพ็ดต่อระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด และค่าทางโลหิตวิทยาในหนูเบาหวาน. วารสารวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 27(3):227–232.
สถาบันวิจัยและพัฒนาระบบสาธารณสุขชุมชน. (2552). การจัดการเบาหวานแบบบูรณาการ. นนทบุรี. (ม.ป.ท.)
อินทิรา ปากันทะ. (2550). ปัญหาการนอนหลับและวิธีการแก้ไข. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. (2):
31-38
Ankita, CB., Gohil, NK., Kale, KA., Vijay, L., & Vipul, G. (2017). A Review: Phaytochemistry, Therapeutic Use
and Pharmacological Activity of Mucuna Pruriens Linn. Pharma Science Monitor. 8 (2), pp. 136-142.
American Diabetes Association. (2006). Standards of medical care in diabetes-2006. Diabetes Care (29): pp.
4-42.
Ahmad, MK., Mahdi, AA., Shukla, KK., Islam, N., Jaiswar, SP., & Ahmad, S. (2008). Effect of Mucuna pruriens
on semen profile and biochemical parameters in seminal plasma of infertile men. Fertil Steril. 90(3): pp.
627-635.

Bala, V. (2011). Anti-inflammatory, diuretic and antibacterial activities of aerial parts of Mucuna pruriens Linn.
Int J Pharmacol (7): pp. 498-503.
Beck, S.L. (1992). Measuring sleep. In M. Frank Stromborg (Ed.), Instrument of clinical nursing research.
Philadelphia: F.A. Davis Company. pp.255-267.

Brown, GR. (2008). The exploratory behavior of rats in the hole-board apparatus. Behavioral processes. 78(3):
442-448.
Daxenbichler, ME., VanEtten, CH., Hallinan, EA., Earle, FR., & Barclay, AS. (1971). Seeds as sources of L-
dopa. J Med Chem (14): pp. 463-465.
Dahanukar, SA., Hazra, A., & In: Dahanukar, SA. (ed). (1995). Heal with Herbs. New Delhi, India: Ayurveda
unraveled, Publications and Information Directorate, Council of Scientific and Industrial Research,
pp. 53–74.
DeLay, KJ., Haney, N., & Hellstrom, WJ. (2016). Modifying risk factors in the management of erectile dysfunction:
a review. World J Mens Health. (34): pp. 89-100.
Dong, HQ., Li, M., Zhu, F., Liu, FL., & Huang, JB. (2012). Inhibitory potential of trilobatin from Lithocarpus
polystachyus Rehd against α-glucosidase and α-amylase linked to type 2 diabetes. Food Chem. (130):
pp.261-266.
Eisenberg, DM., Davis, RB., Ettner, SL., Appel, S., Wilkey, S., Van Rompay, M., & Kessler, RC, (1998). Trends
in alternative medicine use in the United States, results of a follow-up national survey. JAMA.
Fu, W., Zhuang, W., Zhou, S., & Wang, X. (2015). Plant-derived neuroprotective agents in Parkinson’s disease.
Am J Trans Res. 7(7): pp. 1189-1202.
Gupta, A., Mahdi, A., Ahmad, MK., Shukla, KK., Bansal, N., & Jaiswer, SP, et al. (2011). A proton NMR study
of the effect of Mucuna pruriens on seminal plasma metabolites of infertile males. J Pharm Biomed Anal.
(55): pp. 1060-1066.
Hex, N., Bartlett, C., Wright, D., Taylor, M., & Varley, D. (2012). Estimating the current and future costs of type
1 and type 2 diabetes in the UK, including direct health costs and indirect societal and productivity costs.
Diabet Med (29): pp. 855–862.
Helton, DR., Tizzano, JP., Monn, JA., Schoepp, DD., & Kallman, M.J. (1998). Anxiolytic and Side-Effect Profile of Ly 354740: A Potent, Highly Selective, Orally Active Agonist for Group II-Metabotropic Glutamate Receptors. The Journal of Pharmacology and Experimental Therapeutics. 284: pp. 651-660.
Katzenschlager, R., Evans, A., Manson, A., Patsalos, PN., Ratnaraj, N., Watt, H., Timmermann, L., Van der
Giessen, R., & Lees, AJ. (2004). Mucuna pruriens in Parkinson's disease: a double blind clinical and
pharmacological study. J Neurol Neurosurg Psychiatry. Dec;75(12):1672-7. doi:
10.1136/jnnp.2003.028761. PMID: 15548480; PMCID: PMC1738871.
Kim, Y. S., & Joh, T. H. (2006). Microglia, major player in the brain inflammation: their roles in the pathogenesis of Parkinson’s disease. Exp. Mol. Med. 38, 333–347. doi: 10.1038/emm. pp. 40.
Krishna, AB., Manikyam, HK., Sharma, VK., & Sharma, N. (2015). Cytotoxicity Study In Non Malignant Fibroblast L929 Cell Line With Mucuna Pruriens Seed Extract. International Jpurnal of Phytomedicine. 7(4): pp. 366-369.
Kumar, KVA,, Srinivasan, KK., Shanbhag, T., & Rao, SG. (1994). Aphrodisiac activity of the seeds of Mucuna
pruriens. Indian Drug. (31): pp. 321-327.
Kumar, DS., Muthu, KA., Smith, AA., & Manavalan, R. (2010). In vitro antioxidant activity of various extracts of
whole plant of Mucuna pruriens (Linn). Int J Pharm Tech Res; (2): pp. 2063-2070.
Krishnamoorthy, M. (2016). Evaluation of androgenic activity of Mucuna pruriens in male rats. Afr J Biotechnol.
10(66): pp. 150-179.
Longhi, JG., Perez, E., Lima, JJ., & Bileski Cândido, LM. (2011). In vitro evaluation of Mucuna pruriens (L.)
DC. antioxidant activity. Brazilian Journal of Pharmaceutical Sciences; 47(3): pp. 535-544.
Majekodunmi, SO., Oyagbemi, AA., Umukoro, S., & Odeku, OA. (2011). Evaluation of the anti-diabetic
properties of Mucuna pruriens seed extract. Asian Pac J Trop Med 2011 Aug;4(8):632-636. doi:
10.1016/S1995-7645(11)60161-2.
McGrady, AV. (1984). Effects of psychological stress on male reproduction: a review. Arch Androl. (13)1-7.
Misra, L., & Wagner, H. (2007). Extraction of bioactive principle from Mucuna pruriens seeds. Indian J Biochem
Biophys. (44): pp. 56-60.
Molloy, SA., Rowan, EN., O’Brien, JT., McKeith, IG., Wesnes, K., & Burn, DJ. (2006). Effect of levodopa on
cognitive function in Parkinson’s disease with and without dementia and dementia with Lewy bodies. J
Neurol Neurosurg Psychiatr. (77): pp. 1323-1328.
Morenike, OA-I., Olufunmiso, OO., Segun, GJ., & Coopoosamy, RM. (2018). Bioactive compounds in ethanol
extract of Lentinus squarrosulus Mont – A Nigerian medicinal macrofungus. Afr J Trad. 15(2): pp. 42-
50.
Ogurtsova, K., da Rocha Fernandes, JD., Huang, Y., Linnenkamp, U., Guariguata, L., Cho, NH., Cavan, D.,
Shaw, JE., & Makaroff, LE. (2017) IDF Diabetes atlas: global estimates for the prevalence of diabetes
for 2015 and 2040. Diabetes Res Clin Pract (128): pp. 40–50.
Pansare, TA., & Sadabal, BG.(2019). Ayurvedic phytochemical therapeutic and pharmacological overview for
Kapikacchu (Mucuna pruriens Linn.). Inter J Engineering Sci and Computing. 5(3): pp. 215-218.
Rachsee, A., Chiranthanut, N., Kunnaja, P., Sireeratawong, S., Khonsung, P., Chansakaow, S., & Panthong,
A. (2020) Mucuna pruriens (L.) DC. seed extract inhibits lipopolysaccharide-induced inflammatory
responses in BV2 microglial cells. J Ethnopharmacol. 2021 Mar 1;267: 113518. doi:
10.1016/j.jep.2020.113518. Epub 2020 Oct 26.
Rajeshwar, Y., Kumar, GPS., Gupta, M., & Mazumder, UK. (2005). Studies on in vitro antioxidant activities of
methanol extract of Mucuna pruriens (Fabaceae) seeds. Eur Bull Drug Res; (13) pp. 31–39.
Ratnawati, H., (2011). Anticholesterol Activity of Velvet bean towards hypercholesterolemic Rats. Med Res
Center. (40): pp. 317-321.
Sachan, A., Kumar, S., Singh, H., Shankar, P., Kumar, D., Kumar, A., Sachan Kumar., D. (2015). Potential
anti-anxiety effect of Mucuna pruriens in experimental model of Swiss albino mice. PTB Reports. Jan-
Apr.; 1(1).
Selye, H. (1976). Stress and inflammation. In: Selye, H., editor. The stress of life. New York: McGraw-Hill. pp.
129-144.
Shahaji, PS., & Parnu, SA. (2011). Estrogenic activity of Mucuna pruriens in Swiss albino mice. IRJP. 2(4): pp.
191-193.
Sharma, ML., Chandhoke, N., Ray Ghatak, BJ., Jamwal, KS., Gupta, OP., & Singh, GB. (1978).
Pharmacological screening of Indian medicinal plants. Indian J Exp Biol. (16): pp. 228–235.
Shukla, KK., Mahdi, AA., Ahmad, MK., Jaiswar, SP., Shankwar, SN., & Tiwari, SC. (2010). Mucuna pruriens
reduces stress and improves the quality of semen in infertile men. Evid Based Complement Alternat
Med. 7(1): pp. 44-137.
Singh, R., & Gupta R. (2011). Evaluation of anti-anxiety activity of Mucuna pruriens. J Drug Delivery and
Therapeutics. 9(4): pp. 104-07.
Sonpetkar, JM., Nipate, SS., Shenoy, PA., & Chaudhari, PD. (2012). In vitro antioxidant activity of ethanolic
extract of Mucuna pruriens (L.) DC. Seeds. J Pharm Res. 5(5): pp. 2769-2772.
Struart, GW., & Sundeen, SJ. (1995). Principle and practice of psychiatric nursing. (5th ed). ST Louis: Mosby.
Su, CH., Lai, MN., & Ng, L.T. (2013). Inhibitory effects of medicinal mushrooms on alpha -amylase and alpha-
glucosidase - enzymes related to hyperglycemia. Food Funct (4) pp. 644-649.
Tsuji, H., Larson, MN., Venditti, FJ., Manders, EF., Evans, JC., Feldman, CL., & Levy, D. (1996). Impact of Reduced Heart Rate Variability on Risk for Cardiac Events. Circulation. 94(11): pp. 2850–2855.
https://doi.org/10.1161/01.CIR.94.11.2850Circulation.
Wilson, S., & Nutt, DJ. (2008). Sleep Disorders. New York: OUP Oxford.
Yang, NYJ., Kaphle, K., Wang, PH., Jong, DS., Wu, LS., & Lin, JH. (2004). Effect of aqueous extracts of betel
quid and its constituents on testosterone production by dispersed mouse interstitial cells. Am J Chin
Med; (32) pp. 705-715.
Yaremchuk, KL., & Wardrop, PA. (2010). Sleep medicine. San Diego, United States: Plural Publishing Inc.
Zai, A., Bina, S., Siddiqui, S, Begum, S., Siddiquia, S. & Suria, A. (1995). Studies on the constituents of the
leaves of Nerium oleander on behavior pattern in mice. Journal of Ethnopharmacology. 49(1): pp. 33-39.